แนะนำ โรงแรมที่พัก ไทเป ไต้หวัน อัพเดตล่าสุด

แพลนเที่ยวอิตาลี 7 วัน 6 คืนด้วยตัวเอง


ปัจจุบันการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้นสะดวก และง่ายมากกว่าอดีตมาก  อีกทั้งข้อมูลข่าวสารยังสามารถหาได้ทั่วไปตามอินเตอร์เน็ตที่มีมากมายจึงทำให้สามารถไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ได้แบบไม่ต้องง้อทัวร์ ประเทศในฝันอย่างอิตาลีก็เช่นกัน สามารถวางแผนไปเที่ยวทั่วทั้งโรมและเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้สบายดังเช่น โปรแกรมเที่ยว 7 วัน 6 คืนที่อิตาลี ที่เราขอแนะนำดังต่อไปนี้

 

▌วันแรก
   

เที่ยวบินตรงจากไทยไปอิตาลีนั้นจะมีจุดหมายปลายทางที่สนามบินฟูมิชิโน  กรุงโรม  ในวันแรกของทริปเมื่อไปถึงสนามบินแล้วจะใช้บริการ Leonardo Express เพื่อไปที่สถานี Roma Termini ก่อน จากนั้นใช้รถไฟเดินทางไปต่อที่เมืองฟลอเรนซ์ โดยจะเที่ยวชมเมืองฟลอเรนซ์(Florence)เป็นเมืองแรกและใช้เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลักสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ ข้างเคียง

Photo by Bruce Stokes from commons.wikimedia.org/wiki/File:View_of_Santa_Maria_del_Fiore_in_Florence.jpg [CC by-sa 4.0]

จากโรมมาถึงฟลอเรนซ์มีจุดหมายปลายทางที่สถานี Firenze Santa Maria Novella สถานีรถไฟใจกลางฟลอเรนซ์ สามารถหาที่พักใกล้บริเวณได้เลย ในวันแรกนี้เราจะเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆ ในฟลอเรนซ์กัน  เมื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว สถานที่เที่ยวแรกที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณสถานีรถไฟคือ มหาวิหารฟลอเรนซ์ มหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของยุโรป สวยงามและเปี่ยมไปด้วยศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองฟลอเรนซ์ มีโดมที่สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองได้ เป็นสถานที่แห่งความภาคภูมิใจของชาวฟลอเรนซ์อย่างมาก  ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Piazza del Duomo ศูนย์กลางของฟลอเรนซ์ จึงสามารถเที่ยวชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบ 360 ของรูปปั้นและผลงานศิลปะมากมายบริเวณโดยรอบจัตุรัส  และร้านค้าต่างๆ บริเวณจัตุรัส  นอกจากนั้นยังหามื้อเที่ยงจากร้านอาหารที่มีมากมายบริเวณจัตุรัสได้  จากนั้นเดินไปสุดขอบของจตุรัสจะพบกับ Uffizi Gallery หนึ่งในหอศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่รวบรวมเฉพาะผลงานระดับเทพของศิลปินชื่อดังระดับโลกเท่านั้น ภายในเป็นอาคารสองชั้น มีห้องโชว์ผลงานมากมาย มีผลงานเก่าแก่ตั้งแต่ยุคฟรานเชสโกที่ 1 ด้านบนมีดาดฟ้าที่มีคาเฟ่ที่ให้บริการอาหารว่าง เครื่องดื่มและขนมต่างๆ นั่งผ่อนคลายพร้อมชมวิวสวยๆ ของเมืองได้ด้วย

Photo by jannerboy62 from flickr.com/photos/jannerboy62/32319071771 [CC by-sa 4.0]

ไปต่อกันที่สถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในการเที่ยวชมอย่าง Ponte Vecchio สะพานทรงโค้งต่อกันสามอันสีสันสดใส เป็นสะพานเก่าแก่ที่เป็นที่กล่าวขานว่าด้วยความสวยงามของสะพานแห่งนี้ทำให้สะพานแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวที่ไม่โดนผลกระทบจากระเบิดทำลายล้างของกองทัพนาซีเนื่องจากเป็นคำสั่งโดยของฮิตเลอร์ที่ไม่ต้องทำลายสะพานนี้ บนสะพานมีร้านค้าอัญมณีให้เลือกหลายร้าน มีร้านขานของที่ระลึกต่างๆ รวมไปถึงเป็นแหล่งรวมช่างทองฝีมือดี โดยมีรูปปั้นของอดีตสุดยอดช่างทองที่กลางสะพานด้วย  มีช่องไว้สำหรับการชมวิวเมืองและแม่น้ำอาร์โนจากด้านบนของสะพาน  ก่อนจะไปเที่ยวชม Baptistery of St. John หอพิธีอาบน้ำมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีที่โดดเด่นด้วยประตูสวรรค์ที่เรียกกันว่า the gates of Paradise เป็นประตูสีทองแกะสลักสวยงามตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก  จากนั้นปิดท้ายทริปเที่ยวชมฟลอเรนซ์ด้วยการเดินชมรอบๆ เมืองซึ่งมีร้านค้าขายสินค้าเครื่องหนังสวยๆ งานศิลปะและสินค้าน่าซื้ออื่นๆ มากมาย

 

▌วันที่ 2
   

Photo from pixabay.com/en/italy-pisa-tower-monument-history-2094987/ [CC by 0.0]

ใช้รถไฟในภูมิภาคเดินทางไปเมือง Pisa เพื่อไปเที่ยวชมหอเอนปิซ่า หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ไปชื่นชมความน่าประหลาดใจของหอที่เอียงทำตั้งฉากกับพื้นโลกโดยไม่ล้มลงมา ถ่ายรูปสวยๆ พร้อมไปตามรอยนักวิทยาศาสตร์คนดังกาลิเลโอ ก่อนจะหามื้อเที่ยงทาน แล้วไปแวะ The mall luxury outlet ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับฟลอเรนซ์เพื่อช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมราคาถูก  โดยที่นี่เป็น outlet ที่ดีที่สุดสำหรับการช่อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมในอิตาลีที่ทั้งราคาดีที่สุดและมีหลากกลายแบรนด์ให้ได้เลือกช้อปกันอีกด้วย ด้วยเฉพาะแบรนด์ที่กำเนิดในอิตาลีอย่าง Gucci, Prada หรือ Fendi ยิ่งราคาถูกมากเป็นพิเศษ ช้อปปิ้งกันเรียบร้อยก็เดินทางกลับฟลอเรนซ์กันได้เลย

 

▌วันที่ 3
   

Photo from publicdomainpictures.net/view-image.php?image=210520 [CC by 0.0]

Photo by MatthiasKabel from commons.wikimedia.org/wiki/File:Venice_St_Marks_Basilica_frontview.jpg [CC by-sa 4.0]

 เดินทางจากฟลอเรนซ์ไปยังเมืองโรแมนติก มนต์เสน่ห์แห่งสายน้ำที่โด่งดังของอิตาลีอย่างเวนิส(Venice)  เมื่อถึงเวนิสเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟจะพบกับ Grand Canal ควรหาที่พักในบริเวณนี้ได้เลย เริ่มต้นการเที่ยวเวนิสด้วยการล่องเรือโบราณคลาสสิคกอนโดร่า ที่ล่องไปตามคลองหลักในเวนิส จากนั้นไปชมมหาวิหารซานมาโก มหาวิหารโด่งดังของเวนิส ต่อจากนั้นเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ปราสาทหลักๆ ในเวนิส ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเดินลัดเลาะตามถนนชมความสวยงามตามริมฟังแม่น้ำ ก่อนจะหาร้านบรรยากาศดีๆ ซักร้านดินเนอร์และจิบไวน์ผ่อนคลาย  ก่อนจะกลับที่พัก

 

▌วันที่ 4
   

 

Photo by Justus Hayes from flickr.com/photos/shoes_on_wires/4143383933 [CC by-sa 4.0]

Photo by Diliff from commons.wikimedia.org/wiki/File:St_Peter%27s_Square,_Vatican_City_-_April_2007.jpg [CC by-sa 3.0]

เดินทางกลับโรมด้วยรอบเช้าสุด ถึงโรมที่สถานี Roma Termini กลางกรุงโรม ซื้อ Roma pass จากนั้น เช็คอินเข้าที่พักก่อนจะเริ่มเที่ยวในโรมโดยเริ่มจากนครรัฐวาติกัน โดยเลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่สวยงาม ตกแต่งอย่างหรูหรา มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายจุด เสร็จแล้วต่อด้วยมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก  และมีความสำคัญกับคริสตจักรโรมันคาทอลิกอย่างมาก ก่อนจะออกมาเดินถ่ายรูปเที่ยวชมจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์แล้วเดินข้ามสะพานไปชมมหาวิหารเฮเดรียนก่อนจะหาร้านอาหารทานมื้อเที่ยง

Photo by Diliff from commons.wikimedia.org/wiki/File:Colosseum_in_Rome,_Italy_-_April_2007.jpg [CC by-sa 3.0]

Photo Art Anderson from commons.wikimedia.org/wiki/File:Palatine_Hill_-_panoramio.jpg [CC by-sa 3.0]

เริ่มช่วงบ่ายด้วย Colosseum สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นจุดหมายยอดนิยมในการเที่ยวชมโรม เป็นอัฒจันทร์โบราณขนาดใหญ่ที่ในอดีตเป็นสนามประลองที่แสนโหดร้าย จากนั้นมาเดินชมเส้นทางประวัติศาสตร์ Roman Forum ซากปรักหักพังอันเป็นหลักฐานแสดงความรุ่งโรจน์ของโรม ทอดยาวไปจนถึงบริเวณเนินเขา Palatine Hill เมืองโรมันเก่าที่อยู่บนเนินเขาสูงที่เห็นวิวอันสวยงามของ Roman Forum และจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม

 

▌วันที่ 5
   

Photo by Atibordee Kongprepan from flickr.com/photos/atibordee/13972414026 [CC by-sa 4.0]

Photo by Intel Free Press from commons.wikimedia.org/wiki/File:Piazza_Navona_–_HDR_Photography.jpg [CC by-sa 3.0]

เริ่มต้นด้วยการเที่ยวชม Trevi Fountain น้ำพุขนาดใหญ่ที่สวยที่สุดในโรมที่นอกจากถ่ายรูปความงามแล้วอย่าลืมโยนเหรียญลงไปในน้ำพุตามธรรมเนียมกันด้วย จากนั้นไปชมวิหาร Pantheon วิหารเก่าแก่ที่คงสภาพดั้งเดิมไว้ได้มากที่สุด โดดเด่นด้วยการออกแบบบริเวณโดมให้มีที่ว่างให้แสงอาทิตย์สาดเข้ามาได้เรียกว่า Oculus และนอกจากนั้นการตกแต่งโดยรอบทั้งภายนอกและภายในก็งดงามมากด้วยเช่นกัน เสร็จแล้วแวะทานมื้อเที่ยงก่อนจะไปเที่ยวชม Piazza Navona ที่เต็มไปด้วยสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านค้า และการแสดงโชว์รวมถึงสถาปัตยกรรมอันสวยงามรอบบริเวณ แวะนั่งคาเฟ่น่ารักๆ ซักร้านก่อนที่จะเดินลัดเลาะไปที่ Spanish Steps ไปสนุกกับการช้อปปิ้งสินค้าในบริเวณนี้ที่มีร้านบูธิคแบรนด์ดังมากมาย ก่อนที่เย็นๆ จะไปนั่งชมวิวและผู้คนบริเวณบันไดสเปน ก่อนที่จะเดินกลับมาชมความงามยามค่ำคืนของบริเวณน้ำพุเทรวี่

 

▌วันที่ 6
   

Photo by Qfl247 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Pompeii%26Vesuvius.JPG [CC by-sa 3.0]

ออกนอกกรุงโรมไปเที่ยวชมเมืองประวัติศาสตร์ Pompeii เมืองโบราณที่จมอยู่ใต้กองขี้เถ้าภูเขาไฟยาวนานถึง 1700 ปี โดยนั่งรถจาก Termini ไปที่ Napoli Centrale แล้วต่อด้วย Circumvesoviana ไปที่ Pompeii พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยการแสดงผลงานการศึกษาด้านพฤติกรรมเชิงลึกของผู้คนสมัยโรมันก่อนจะถูกทำลายล้างด้วยภูเขาไฟระเบิด ใช้เวลาเดินปะมาณ5-6 ชั่วโมง ควรเตรียมน้ำและมื้อเที่ยงมาให้พร้อม เสร็จจากการเดินชมแวะทานพิซซ่าที่ Napoli ที่ขี้นชื่อที่สุดในเรื่องความอร่อยของพิซซ่า ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ และความพิถีพิถันของการเอาใจใส่ในทุกกระบวนการทำ ทำให้ได้พิซซ่าที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์และโด่งดัง ก่อนจะนั่งรถไฟกลับโรม

 

▌วันที่ 7
   

Photo by Benjamin Dahlhoff from commons.wikimedia.org/wiki/File:BD-Campo_de’_Fiori-20120813-P8130070.jpg [CC by-sa 3.0]

วันสุดท้ายไปเที่ยวชม Campo de’ Fiori ตลาดเกษตรที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโรม คุณสามารถหาซื้อของฝากยอดนิยมได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นพาสต้าแห้ง เหล้ามะนาว หรือไวน์รสชาติเลิศ หรือจะเป็นผักผลไม้สด ขนมต่างๆ สินค้าน่ารักๆ แฮม และชีสคุณภาพดี และยังหาอาการทานที่นี่ได้อีกด้วย เสร็จจากการเดินช่อปปิ่งซื้อของฝากของที่ระลึกเรียบร้อยแล้วกลับมสที่สถานี Termini เพื่อเข้าชมสถานที่สุดท้ายของทริป นั่นก็คือ National Roman Museum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโรมัน ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างของโรมให้ได้เรียนรู้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะของกรุงโรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมสมบัติล้ำค่าตั้งแต่ในยุคสมัยของโรมันโบราณไว้ให้ได่ชมกันอีกด้วย  เสร็จจากการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แล้วก็ใช้รถไฟ Leonardo Express เดินทางไปสนามบินฟูมิชิโนเพื่อเตรียมพร้อมรอเวลาเดินทางกลับได้เลย