ที่พักสิงคโปร์ 2025 – พักย่านไหนดี? แนะนำ 25 โรงแรม ใกล้รถไฟ เดินทางสะดวก สำหรับมือใหม่

สิงคโปร์ เป็นจุดหมายเที่ยวต่างประเทศยอดฮิตของบ้านเรา เพราะบินใกล้ ✈️ เมืองสะอาดปลอดภัย แถมที่เที่ยวครบเครื่องทุกสไตล์ ไม่ว่าจะสายช้อป สายกิน หรือครอบครัว สิงคโปร์มีหมดทั้งแลนด์มาร์กดังอย่าง เมอร์ไลออน (Merlion) ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็กอิน, สวนพฤกษศาสตร์ล้ำๆ Gardens by the Bay ที่เดินทั้งวันยังไม่เบื่อ, หรือสวนสนุกระดับโลก Universal Studios Singapore (USS) หนึ่งเดียวในอาเซียนให้เด็กๆ สนุกกันเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีย่านช้อปปิ้ง Orchard Road ที่ห้างเพียบ ตลาดและฮอว์กเกอร์สตรีทฟู้ดให้ตามไปชิมอีกนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าไป สิงคโปร์ ครั้งเดียวเที่ยวคุ้มแน่นอน

แต่ไปเที่ยว “เมอร์ไลออนแลนด์” ทั้งที เรื่องที่พักก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าเลือกทำเลที่พักดี ทริปจะชิลขึ้นเยอะ! 😄 นักท่องเที่ยวหลายคน (โดยเฉพาะคนไทยเรา) มักวางแผนเที่ยวสิงคโปร์แบบ 3–4 วัน ฉะนั้นการเลือกที่พักที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า MRT และตรงกับสไตล์เที่ยวของตัวเองจะช่วยประหยัดเวลาได้มาก คนไทยชอบไป ย่านช้อปปิ้งและตลาด เช่น ตลาด street food แถวไชน่าทาวน์ หาของกินฟินๆ อย่าง ข้าวมันไก่เทียนเทียน หรือชอบเดินเล่นห้างดังที่ Orchard, Marina Bay แถมบางคนชอบหาร้านคาเฟ่เก๋ๆ อย่าง %Arabica ในย่านกัมโปงกลามด้วย เที่ยวครบขนาดนี้ แล้ว ที่พักย่านไหนดี? มาดูกันเลย 😉

ที่พักงบประหยัด – Hotel 81 Chinatown: 3 ดาว เดิน ~5 นาทีถึง MRT Chinatown ห้อง ~12 ตร.ม. สะอาด เดินกิน–ช้อปสะดวก • ข้อเสีย: ไม่มีตู้เย็น ดูรีวิว โรงแรม Hotel 81 Chinatown ได้ที่นี่

ที่พักระดับกลาง – V Hotel Lavender: 4 ดาว ติด MRT Lavender (มีทางขึ้นใต้ตึก) ห้อง ~15 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำ/ฟิตเนส ใต้โรงแรมมีศูนย์อาหาร–ร้านสะดวกซื้อ • ข้อเสีย: ห้องค่อนข้างเก่าแต่สะอาด ดู รีวิวโรงแรม V Hotel สิงคโปร์ แบบละเอียดได้ที่นี่

ที่พักพรีเมียม – Marina Bay Sands: 5 ดาว แลนด์มาร์กตึกเรือ วิวมารีน่าพาโนรามา ไฮไลต์สระลอยฟ้าชั้น 57 ใต้โรงแรมมี The Shoppes และคาสิโน • ข้อเสีย: ราคาแรง แขกเยอะ คิวเช็คอินนาน

ที่พักครอบครัว – Holiday Inn Singapore Orchard City Centre: 4 ดาว ใกล้ MRT Somerset ห้องกว้าง ~32 ตร.ม. มีห้อง Family (Two Queen) เด็กต่ำกว่า 12 ปีพัก/กินฟรี สระดาดฟ้า–มีบริการพี่เลี้ยงเด็ก • ข้อเสีย: อาคารค่อนข้างเก่า แต่ห้องพักสะอาด

การเดินทางจากสนามบินชางงี (Changi) เข้าตัวเมือง: สำหรับมือใหม่ที่ห่วงเรื่องหลงทางหรือหิ้วกระเป๋าหนัก ขอเล่าให้หายกังวลก่อนว่า สนามบินชางงี มีวิธีเข้าเมืองให้เลือกหลายแบบ สะดวกสุดก็แท็กซี่หรือเรียก Grab จากหน้าประตูสนามบิน ใช้เวลาประมาณ 20–30 นาทีถึงตัวเมือง (ค่าโดยสารประมาณ 600–900 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและจราจร) แต่ถ้าอยากประหยัดหน่อย รถไฟฟ้า MRT ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยม จากสนามบินนั่งสายสีเขียว (East West Line) เข้าเมืองได้เลย โดยเปลี่ยนขบวนที่สถานี Tanah Merah แล้วตรงยาวเข้าสู่โซน Downtown ใช้เวลาประมาณ 40–50 นาที ค่าโดยสารถูกมาก (~60–80 บาทเท่านั้น) ข้อควรระวังคือช่วงเวลาเปลี่ยนสายอาจจะคนเยอะนิดนึง อีกทางหนึ่งคือ Airport Shuttle Bus แบบจองล่วงหน้า ราคากลางๆ ส่งถึงหน้าโรงแรม แต่ใช้เวลานานกว่าแท็กซี่นิดหน่อย สำหรับมือใหม่ ถ้าไปกันหลายคนมีสัมภาระเยอะ แท็กซี่/Grab 🛺 จะสบายสุด แต่ถ้าไปคนเดียวหรือคู่รักแบ็กแพ็ก รถไฟก็ง่ายและประหยัดดี

รวมวิธีการเดินทางจากสนามบินสิงคโปร์เข้าตัวเมืองแบบละเอียด

การเดินทางหลักๆ ในเมือง: ระบบขนส่งสาธารณะสิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกและตรงเวลา นักท่องเที่ยวไทยอย่างเราควรทำความรู้จักไว้ ทั้ง รถไฟฟ้า MRT ที่ครอบคลุมเกือบทุกย่านท่องเที่ยว และรถเมล์ที่เข้าถึงจุดต่างๆ ได้ละเอียด ช่วยให้เที่ยวเองได้แบบไม่หลง หลักสำคัญคือพยายามเลือกที่พักใกล้สถานี MRT มากที่สุด เพราะจะเชื่อมต่อไปยังที่เที่ยวต่างๆ ง่ายสุดๆ เช่น อยากไป Gardens by the Bay ก็ขึ้น MRT สายสีแดง/สีม่วงไปลง Chinatown แล้วต่อสายสีฟ้าลง Bayfront; หรืออยากช้อปต่อ Bugis Street ก็มีสายสีเขียวและสีน้ำเงินผ่าน เป็นต้น การมี MRT ใกล้มือทำให้เราออกไปตะลุยแต่ละวันได้คล่องตัว ไม่ต้องเดินไกลจนเหนื่อยเกิน นอกจากนี้ Grab ก็มีประโยชน์เวลาไปที่ๆ MRT ไม่ถึงหรือกลับดึก แต่อาจจะแพงหน่อย (เริ่มต้น ~150 บาทขึ้นไปต่อเที่ยว) โดยรวมแล้ว ถ้าใช้ บัตร EZ-Link (คล้าย Rabbit บ้านเรา) เติมเงินนั่ง MRT/Bus เอา จะคุ้มและง่ายมากสำหรับนักท่องเที่ยว มือใหม่หายห่วงเรื่องหลง เพราะในสถานีมีป้ายภาษาอังกฤษชัดเจน คนสิงคโปร์ก็พูดอังกฤษได้ ถ้าสงสัยถามเจ้าหน้าที่ได้เลย

หมายเหตุ: สิงคโปร์มีย่านที่พักน่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น Sentosa (เกาะสวนสนุก-รีสอร์ท), ย่าน Geylang (ที่พักราคาถูกกว่าใจกลางเมืองแต่ไกลนิดหน่อย) แต่ 5 พื้นที่ด้านบนคือทำเลที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนไทยรีวิวว่าประทับใจและแนะนำต่อๆ กันมามากที่สุด เราจึงขอสรุปเจาะลึกเฉพาะ 5 โซนนี้นะคะ 😉

ย่านยอดฮิตอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ต้องยกให้ ถนนออร์ชาร์ด ค่ะ ย่านนี้คือศูนย์กลางความเจริญของสิงคโปร์ เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรมชื่อดังแบบเรียงรายสองฝั่งถนน ระยะทางช้อปปิ้งยาวหลายกิโล “เดินเพลิน” สมชื่อ ไม่ว่าจะห้างใหญ่ๆ อย่าง ION Orchard, Paragon, Ngee Ann City (มีห้าง Takashimaya ที่คนไทยรู้จักดี) รวมถึงห้างใหม่อย่าง Orchard Central ที่มี Don Don Donki 24 ชั่วโมง และอีกสารพัดร้านรวงให้สำรวจไม่มีเบื่อ คนไทยชอบพักย่านนี้เพราะสะดวกครบ จบในที่เดียว สายช้อปถ้าอยากแบกของกลับโรงแรมก็เดินแป๊บเดียวถึง ไม่ต้องขึ้นรถให้ยุ่งยาก แถมเรื่องอาหารก็หายห่วงค่ะ ในห้างจะมีฟู้ดคอร์ทชื่อดังอย่าง Food Republic และศูนย์อาหารในห้างชั้นใต้ดิน (ที่นี่เรียกกันว่า “ชั้น B” จะรวมร้านข้าวร้านขนมเยอะมาก) ให้อิ่มอร่อยราคาประหยัด ตกดึกถนนออร์ชาร์ดก็ปลอดภัย เดินเล่นดูไฟชมบรรยากาศได้สบายๆ

พักย่านนี้เหมาะสุดกับ “สายช้อป-กิน” แน่นอนค่ะ เพราะลงจากโรงแรมมาก็เจอห้างละ 😆 ห้างใหญ่แต่ละที่มีทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนม สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (หลายคนมาซื้อ iPhone/Apple Store ที่นี่) และซูเปอร์มาร์เก็ตให้ตุนขนมกลับไทย ยิ่งช่วงเทศกาลลดราคากลางปี/ปลายปี ห้างละลานตาไปด้วยป้าย Sale ฟินกันไป คนไทยยังชอบย่านนี้เพราะเดินทางง่ายด้วย MRT สายสีแดง (North South Line) มีหลายสถานีตามแนวถนน เช่น Orchard, Somerset, Dhoby Ghaut เชื่อมต่อไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้สะดวก เช่น นั่งสายสีแดงไป Marina Bay หรือ Chinatown โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย สำหรับสายกิน แนะนำเดินไป ศูนย์อาหาร Newton Food Centre (นั่ง MRT 1 สถานีหรือแท็กซี่ 5 นาที) มีซีฟู้ดเผ็ดๆ ถูกปากเพียบ ส่วนใครเป็นคาเฟ่ฮอปเปอร์ลองไปร้าน %Arabica ที่ถนน Arab Street (MRT 2 สถานีถึง Bugis) ก็อินเทรนด์สุดๆ โดยรวม Orchard จึงเหมาะกับมือใหม่และทุกคนที่อยากให้ทริปสิงคโปร์สะดวกสบายที่สุด อยู่กลางเมืองจะไปไหนก็ไม่ไกลค่ะ

การเดินทางจากสนามบิน: หากนั่ง MRT จาก Changi มาลง สถานี Orchard จะต้องเปลี่ยนสาย 2 ครั้ง (สายสีเขียว > สายสีแดง ที่ City Hall) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที และมีช่วงลากกระเป๋าเปลี่ยนขบวนพอเหงื่อซึม 😂 หลายคนเลยเลือกนั่งแท็กซี่/Grab จากสนามบินเข้าย่าน Orchard โดยตรง ใช้เวลา ~25 นาที ค่ารถ ~700–800 บาท ถ้ามากันหลายคนก็คุ้มค่ากับความสะดวก แต่ถ้าใครเดินทางเบาๆ การนั่ง MRT ก็ไม่ได้ยากเกินไป แค่ควรเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วง 8 โมงเช้าและ 6 โมงเย็น) เพราะคนไปทำงานจะเยอะมาก

▌YMCA @ One Orchard

ที่พักราคาประหยัดบนถนน Orchard ที่หลายคนอาจมองข้ามเพราะคิดว่าเป็นหอพัก แต่จริงๆ แล้ว YMCA แห่งนี้เป็นโรงแรมมาตรฐาน 3 ดาวที่ ห้องพักกว้างใช้ได้ (~27 ตร.ม.) และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง โลเคชันถือว่าเยี่ยมมากๆ เพราะอยู่ติด สถานี Dhoby Ghaut MRT (จุดเชื่อม 3 สาย) เดินไม่ถึง 3 นาทีก็เข้าห้าง Plaza Singapura ได้เลย รอบๆ มีทั้ง Starbucks และร้าน Subway หน้าโรงแรม สำหรับห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่ายใช้งานได้จริง ไม่หรูหราแต่สะอาด มีแม่บ้านทำความสะอาดทุกวัน ไฮไลท์ของที่นี่คือ สระว่ายน้ำกลางแจ้งบนชั้นดาดฟ้า ที่มองเห็นวิวสวน Fort Canning เขียวๆ ให้สดชื่นใจกลางเมืองได้ด้วย สายออกกำลังกายก็มียิมเล็กๆ ให้ใช้งาน ข้อดี: ราคาห้องรวมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ง่ายๆ (ซีเรียล ไข่ ขนมปัง) ถ้ามากันเป็นครอบครัวมีห้อง Family Room พัก 4 คนได้ ประหยัดกว่าจองสองห้อง และมีห้อง Laudromat ซักผ้าอบผ้าหยอดเหรียญให้ใช้ ข้อเสีย: เนื่องจากเป็นตึกเก่า ห้องบางห้องไม่มีหน้าต่าง (ควรเช็กประเภทห้องตอนจอง) และที่จอดรถมีจำกัดมาก นอกจากนี้ล็อบบี้อยู่ชั้น 4 ต้องขึ้นลิฟต์ไปเช็คอิน (มีลิฟต์แยกสำหรับแขกกับบุคคลทั่วไปเพื่อความปลอดภัย) แต่พนักงานก็ดูแลดี ยินดีช่วยเหลือเรื่องยกกระเป๋าอะไรค่ะ ราคาเริ่มต้น 2,500-3,500 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Hotel Chancellor@Orchard

ที่พักกลางออร์ชาร์ดที่เดินทางง่ายมาก เพราะอยู่หลังถนน Orchard Road ระหว่าง MRT Somerset กับ Dhoby Ghaut เดินประมาณ 5 นาทีถึงทั้งสองสถานีเลย สะดวกสายช้อป–สายกินสุด ๆ 🛍️ โรงแรมมีสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าพร้อมสระเด็ก ส่วนห้องพักจะขนาดกะทัดรัด เบสิคแต่ครบ มีไวไฟและตู้นิรภัย ใครอยากกินเช้าเลือกแบบรวมอาหารหรือซื้อเพิ่มก็ได้ เราว่าที่นี่เหมาะกับคนที่ให้คะแนน “โลเคชัน” เป็นอันดับแรกและอยากได้ฐานเดินเที่ยวออร์ชาร์ดแบบไป–กลับง่าย ๆ ข้อเสียคือสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เยอะมากและห้องไม่ได้กว้าง ถ้าโอเคกับความเรียบง่ายทำเลดี ที่นี่ตอบโจทย์ค่ะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000-3,500 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌YOTEL Singapore Orchard Road

โรงแรม 4 ดาวดีไซน์ไฮเทคบนถนน Orchard (ระหว่าง Scotts Square กับ Tang Plaza) จุดเด่นคือห้องกะทัดรัดแต่จัดสรรพื้นที่ฉลาด: เตียงปรับเอนด้วยไฟฟ้า, Smart TV 40” คุมผ่านมือถือ, ไฟ Ambient/กระจก Hollywood และมีหุ่นยนต์ Yoshi & Yolanda ส่งของถึงหน้าห้อง ห้องเริ่ม ~16 ตร.ม. มีหน้าต่างบานใหญ่ วิวดีถ้าชั้นสูง มีแบบ Queen และ Twin (เตียงสองชั้น) ส่วนกลางมีฟิตเนส 24 ชม., สระกลางแจ้ง ทำเลเยี่ยม ตรงข้ามสถานทูตไทย เดิน ~5 นาทีถึง MRT Orchard ข้อเสีย: ระบบไฮเทคต้องทำความคุ้นเคย และห้องน้ำกระจกฝ้าอาจเขินถ้ามากับเพื่อน เหมาะกับคนรุ่นใหม่/คู่รักที่ชอบกิมมิกเทคและโลเคชันกลางช้อปปิ้ง ราคาเริ่มต้น 4,000-5,000 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Hilton Singapore Orchard

รีแบรนด์จาก Mandarin Orchard ติด Mandarin Gallery ตรงข้าม Takashimaya เดิน ~400 ม. ถึง MRT Orchard ห้องรีโนเวทใหม่สไตล์โมเดิร์น (เริ่ม ~28 ตร.ม.) ไฮไลต์สายกิน: Shisen Hanten มิชลิน 1 ดาว และ Chatterbox ข้าวมันไก่พรีเมียม เชื่อมห้างสะดวก ข้อดี: ตัวเลือกห้องหลากหลาย มี Executive Lounge มาตรฐาน Hilton ครบ ข้อเสีย: ราคาแรง และโรงแรมใหญ่ (1,080 ห้อง) ช่วงพีคเช็คอินคึกคัก ราคาเริ่มต้น 9,000-12,000 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Marriott Tang Plaza Hotel

แลนด์มาร์กหลังคาจีน ติดสถานี Orchard MRT (ทางออกเดียวกับ ION) ห้องมาตรฐาน ~32 ตร.ม. มีอ่างและโต๊ะทำงาน บุฟเฟต์เช้าขึ้นชื่อ และ Wan Hao จีนติ่มซำ–หมูกรอบอร่อย สระกลางแจ้งใหญ่มี Pool Bar ฟิตเนส–สปาครบ ข้อดี: โลเคชันท็อป ห้องกว้าง คุ้มเมื่อเทียบคู่แข่ง ข้อเสีย: บางโซนเริ่มเก่าและช่วงไฮซีซันแขกเยอะ ราคาเริ่มต้น 10,000-12,000 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Holiday Inn Singapore Orchard City Centre

ตัวเลือกครอบครัว 4 ดาว บนถนน Cavenagh ใกล้ Centrepoint และ MRT Somerset (~5 นาที) เด่นที่ Family Room/Suite (Deluxe Twin เตียงคู่ใหญ่ พัก 2 ผู้ใหญ่ + 2 เด็ก) เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีพัก/กินฟรีตามเงื่อนไข มีบริการพี่เลี้ยง สระ–จากุซซี่ดาดฟ้าวิวเมือง ห้องเพิ่งรีโนเวท สะอาด พนักงานใส่ใจ อาหารเช้าหลากหลาย ข้อเสีย: ช่วงมีอีเวนต์/ทัวร์อาจพลุกพล่าน และที่จอดรถจำกัด ราคาเริ่มต้น 6,000-7,000 บาาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

ทิปย่าน Orchard

ฝั่ง Somerset ใช้ซอย Killiney ลากกระเป๋าง่ายกว่าไหล่ถนนหลัก เช้า ๆ แวะ Killiney Kopitiam กาแฟโบราณ+ขนมปังปิ้ง ก่อนลุยช้อปปิ้งได้เพลิน ๆ

ย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์เป็นอีกโซนที่คนไทยนิยมพัก ด้วยเสน่ห์แบบวัฒนธรรมจีนผสมความโมเดิร์นของเมืองใหญ่ สองข้างทางเต็มไปด้วยตึกแถวเก่าสีสันสดใสและวัดจีน-ฮินดูสำคัญๆ สลับกับคาเฟ่ฮิปๆ และบาร์เก๋ๆ ฟีล “เก่าเจอกับใหม่” ที่ลงตัวมากค่ะ กลางวันบรรยากาศคึกคักด้วยร้านค้าและตลาดขายของที่ระลึก ส่วนกลางคืนไฟแดงโคมจีนสว่างไสว บางมุมก็จะเห็นวิวตึกสูงของย่าน CBD อยู่ไม่ไกล นักท่องเที่ยวไทยชอบย่านนี้เพราะ ของกินเด็ดเยอะและราคาไม่แพง ไม่ว่าจะเป็นร้านข้าวมันไก่ มิชลิน Bib Gourmand ในศูนย์อาหาร Chinatown Complex, ร้านโจ๊กฮ่องกงดังๆ หรือจะเป็นสตรีทฟู้ดใน Chinatown Street Market ที่เดินกินเพลินๆ ได้ทั้งคืน ย่านนี้ยังมี วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) ที่สวยงามและ วัดแขก Sri Mariamman อายุกว่า 150 ปีให้เข้าชม ใครชอบถ่ายรูปตึกเก่า คาเฟ่คลาสสิก ก็มีมุมให้แชะเยอะจนเมมเต็มแน่นอน

พักย่านนี้คือฟินเรื่องกินที่สุด 🍜 เพราะภายในไม่กี่ร้อยเมตรมีทั้งร้านระดับมิชลินและร้านโลคอลเจ้าดังเรียงราย เช่น Maxwell Food Centre ศูนย์อาหารในตำนานที่มีข้าวมันไก่เทียนเทียนเจ้าอร่อยอยู่, Chinatown Complex ที่ตอนเย็นๆ จะมี Chinatown Food Street ปิดถนนคนเดินขายของกิน และถ้าเดินไปโซน People’s Park จะเจอร้านติ่มซำร้านชานมไข่มุกราคาเบาๆ อีกเพียบ ส่วนเรื่องเที่ยว ย่านนี้เดินไป Boat Quay ริมน้ำสวยๆ ได้ (~10 นาที) หรือจะไปช้อปที่ ห้าง VivoCity / Sentosa ก็นั่ง MRT สายสีม่วงตรงไป HarbourFront 4 สถานีถึงเลย (ประมาณ 10 นาที) ดังนั้นไชน่าทาวน์จึงเหมาะกับทั้งสายชิม ช้อป และยังโอเคสำหรับครอบครัวที่อยากพักทำเลกลางๆ ใกล้แหล่งของกินแบบนี้ค่ะ

มาย่าน Chinatown มีทริคเล็กน้อยคือสามารถนั่ง MRT จาก Changi โดยเปลี่ยนสายครั้งเดียวที่ สถานี Expo (จากสายสีเขียว เปลี่ยนเป็นสายสีฟ้า Downtown Line) แล้วนั่งยาวจนถึง สถานี Chinatown ได้เลย ประมาณ 50 นาที ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนมาคนเดียวหรือมาแบบแบ็กแพ็ก แต่ถ้ามากันเป็นครอบครัวแล้วมีสัมภาระหลายชิ้น คนไทยส่วนใหญ่มักเลือกนั่งแท็กซี่หรือ Grab ค่ะ (ใช้เวลา ~20 นาที ถ้าไม่รถติด) ค่าโดยสารประมาณ 600–800 บาท ไม่ต้องต่อขบวนให้วุ่นวาย เพราะอย่างสถานี Chinatown เองจะมีบันไดเยอะพอควร ถ้ากระเป๋าหนักลากขึ้นลงเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

▌Hotel 81 Chinatown

ที่พักประหยัดหัวมุมตรงข้าม MRT Chinatown ทางออก E ทำเลสะดวกสุด ๆ ห้องเล็ก ~12–15 ตร.ม. แต่มีห้องน้ำส่วนตัวและของใช้ครบ เหมาะกับคนต้องการแค่ที่นอนกลางเมือง รอบ ๆ มีของกิน–ช้อปเยอะมาก: Chinatown Point ~100 ม., Chinatown Street Market เริ่มหน้าซอย เดินถึง Clarke Quay ~10 นาที ห้องเก็บเสียงโอเค ข้อเสีย: ไม่มีตู้เย็น, ลิฟต์เดียวบางช่วงต้องรอแต่อาคารก็เตี้ยๆเดินเอาสบายๆ ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000-5,000 บาท

ดูรีวิว โรงแรม Hotel 81 Chinatown ได้ที่นี่

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Dorsett Singapore

โรงแรม 4 ดาวคุ้มค่า อยู่บน MRT Outram Park (ต่อ 3 สาย: เขียว/ม่วง/น้ำตาล) จะไป Chinatown แค่ข้ามถนน หรือไป HarbourFront/USS เพียง 3 สถานี ย่านรอบ ๆ มีคาเฟ่–บาร์แน่น (ใกล้ Club Street) ห้อง ~22–28 ตร.ม. โมเดิร์น สิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีสระ/ฟิตเนส/ตู้อัตโนมัติ และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ หลายห้องมีระเบียง วิวสวย ข้อเสีย: ไม่มีร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ (ต้องเดิน ~700 ม.)  ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000-5,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Hotel Mono

โรงแรมบูทีค 3 ดาวมินิมอลขาว–ดำ บน Mosque Street ใจกลาง Chinatown รีโนเวทจากตึกเก่าร้อยปี ภายในโมเดิร์นถ่ายรูปสวย ห้องตั้งแต่ ~15 ตร.ม. ถึง Family ~30 ตร.ม. (พัก 4 คนหายากในเรตราคานี้) ทำเลดี: ถึง MRT Chinatown ~240 ม., เดินไป Clarke Quay ~8 นาที, ใกล้ Chinatown Point ~200 ม. ข้อเสีย: บางห้องรูปทรงแปลก/อาจมีเสียงจากถนน และ ไม่มีลิฟต์ (3 ชั้น) ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000-4,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Bliss Hotel Singapore

โรงแรม 3 ดาวติด MRT Chinatown ทางออก E ตึกชิโนโปรตุกีส ห้อง ~15–18 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกครบ (มีตู้เย็นเล็ก/ตู้นิรภัย และ สายชำระ) ห้องสะอาด แอร์เย็น ล็อบบี้มีมุมกาแฟ และเคยมี Handy Phone ให้ยืม ข้อควรทราบ: ห้องน้ำกระจกใสและไม่มีล็อก ถ้ามากับเพื่อนอาจเขิน ต้องผลัดกันใช้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000-5,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌PARKROYAL COLLECTION Pickering

โรงแรม 5 ดาวไอคอนนิค “สวนลอยฟ้า” กลางเมือง เดินถึง Chinatown ~5 นาที และไป Marina Bay / Gardens by the Bay / Clarke Quay ได้ในระยะเดิน ห้องกระจกเต็มผนัง วิวเมือง–อ่าวสวย ชั้นบนมีสระ 24 ม. มอง Marina Bay พร้อม Wellness Floor (สปา/ออนเซ็นเล็ก) เด่นทั้งบริการและอาหารเช้า (มีมุมวีแกน) ข้อเสีย: ราคาสูง ~10,000–13,000/คืน และห้องมีราว 350 ห้อง ช่วงพีคเต็มเร็ว

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Furama City Centre

โรงแรม 4 ดาวครอบครัว ระหว่าง Chinatown–Clarke Quay ห้องใหญ่ เด็ก <12 ปีพักกับผู้ปกครองฟรี (ตามเงื่อนไข) มี Family Loft ~56 ตร.ม. นอนได้ 4 คน สระกลางแจ้งวิวเมือง/มุมอาหารเด็ก เดินถึง MRT Chinatown ~3 นาที และ Clarke Quay ~5 นาที ติด People’s Park Centre จุดเด่น: ห้องรีโนเวทใหม่กว้างสะอาด เตียงหลับสบาย ข้อเสีย: ภายนอกดูเก่าและบางห้องยังไม่รีโนเวท แต่ด้วยโลเคชัน+ขนาดห้อง ช่วง ~฿3–4 พันถือว่าคุ้ม

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

ทิปย่าน Chinatown

ช่วงตรุษจีนมี ตลาดโต้รุ่ง CNY ใหญ่สุดบนถนน Pagoda/Sago/Trengganu แนะนำพักใกล้ MRT Chinatown เพราะมีปิดถนน/รถติด เดินใต้ดินคล่องกว่า สายโรตีแวะ Mr and Mrs Mohgan’s ใกล้ วัดศรีมาริอัมมัน เปิดราว 07:00–13:00 หยุดวันจันทร์ ราคาไม่แรง อร่อยคุ้ม!

ข้อมูลโดยละเอียดของย่านสถานีรถไฟ Chinatown และ Outram Park พร้อมโรงแรมแนะนำ 11 โรงแรม ทั้งหมดเลยก็ได้

ดูรีวิว โรงแรม Santa Grand Hotel Chinatown ได้ที่นี่

ย่านบูกิส (Bugis) และกัมโปงกลาม (Kampong Glam) เป็นสองย่านที่อยู่ติดกันและมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงมากค่ะ ฝั่งบูกิสจะเป็นโซน ช้อปปิ้งวัยรุ่นและสตรีทฟู้ด มีทั้งห้าง Bugis Junction, Bugis+ และตลาดคนเดิน Bugis Street Market ที่ขายเสื้อผ้า ของฝากราคาน่ารักๆ เพียบ กลางคืนบางวันก็มีเปิดตลาดอาหาร Satay Street ให้ลองชิมบักกุ๊ดเต๋ ข้าวมันไก่ ชาชัก ครบ! ส่วนฝั่งกัมโปงกลามจะเป็นย่านมุสลิมเก่า มีมัสยิดสุลต่าน (Sultan Mosque) โดมทองสวยอลังเป็นแลนด์มาร์ก และถนน Haji Lane ที่เต็มไปด้วยภาพกราฟฟิตี้และคาเฟ่-ร้านแฟชั่นดีไซน์เนอร์ท้องถิ่น ฮิปสุดๆ 🍹 รวมๆ แล้วสองย่านนี้เชื่อมต่อกันจึงให้อารมณ์เที่ยวที่ต่างหลากหลายในพื้นที่ไม่กว้าง เดินเล่นสนุกทั้งกลางวันกลางคืน ได้ทั้งสายกิน สายถ่ายรูป แถมโรงแรมในโซนนี้ราคาย่อมเยากว่าย่านมารีน่า/ออร์ชาร์ด แต่ยังได้ทำเลกลางเมืองใกล้ที่เที่ยวหลายแห่ง

สิ่งที่คนไทยชอบย่านนี้อย่างแรกคือ ช้อปปิ้ง ค่ะ ห้าง Bugis Junction มีร้านดังๆ ครบทั้งเครื่องสำอางมัตสึโมโตะ, เสื้อผ้า Uniqlo, ร้านหนังสือ Kinokuniya ส่วนตลาด Bugis Street ก็เหมือนจตุจักรย่อมๆ ของสิงคโปร์ ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า ของฝากราคาถูกได้ (พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น ของที่ระลึกต่างๆ ที่นี่ขายถูกสุด 3 ชิ้น 10 เหรียญอะไรแบบนี้) สายกินก็ต้องไม่พลาด Albert Centre Market ตลาดโต้รุ่งตรงข้าม Bugis Street มีร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ปูผัดพริก อร่อยราคาเบาๆ หลายร้าน ส่วนฝั่ง Kampong Glam ก็มี ร้านอาหารตะวันออกกลาง เยอะมาก เช่น ร้านเปอร์เซียชื่อดัง Kebabs and Curries บนชั้นดาดฟ้าอาคารห้างโกลเด้นมิล (วิวดีเห็นยอดโดมมัสยิดชัดเจน), หรือร้าน Zam Zam เก่าแก่กว่า 100 ปีที่ขาย Murtabak แผ่นโรตีสอดไส้เนื้อแกะกับชีสให้ลองด้วย เที่ยวแถวนี้ได้ความรู้สึกหลากหลายเหมือนไปหลายประเทศในทริปเดียว 😆

การเดินทางจากสนามบิน: ย่านบูกิสถือว่าเดินทางสะดวกที่สุดแห่งหนึ่งค่ะ เพราะ MRT สายสีเขียว (East West) จากสนามบินผ่านเข้ามาถึง สถานี Bugis โดยตรง (เปลี่ยนขบวนครั้งเดียวที่ Tanah Merah) ใช้เวลาประมาณ 35–40 นาทีเท่านั้น ถ้ามากระเป๋าไม่ใหญ่มากนั่ง MRT เข้าตรงๆ ได้เลยไม่ต้องกลัวหลง เพราะสถานี Bugis มีป้ายภาษาอังกฤษชัดเจนออกมาถึงถนน ถ้ามีสัมภาระเยอะหน่อยก็นั่งแท็กซี่ 20 นาที (~600–700 บาท) เช่นกัน จะบอกให้คนขับส่งแถวไหนของย่านก็บอกชื่อถนนได้เลย เช่น “ไปโรงแรมที่อยู่ถนน Victoria” คนขับรู้จักหมดค่ะ

▌Summer View Hotel

โรงแรม 3 ดาวคุ้มค่าในย่าน Bencoolen เดิน ~300 ม. ถึง Bugis Junction ใกล้ MRT ถึง 3 สาย: Rochor ~3 นาที / Bencoolen ~5 นาที / Bugis ~8 นาที จะไป Orchard หรือ Marina Bay ก็ง่าย ห้อง ~16–18 ตร.ม. โมเดิร์นอบอุ่น เก็บเสียงดี หลับสบาย มีสมาร์ทโฟนให้ยืม ใกล้ Sim Lim Square แค่ 2 นาที ข้อสังเกต: ไม่มีวิว/สระว่ายน้ำ และทางเข้าล็อบบี้ค่อนข้างเงียบตอนดึก (ควรกลับก่อนค่ำ) ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000-3,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌ibis Budget Singapore Bugis

โรงแรมบัดเจ็ท 2 ดาวราคาดี อยู่ Middle Road ใกล้ Bugis Junction ~300 ม. เดิน ~5 นาทีถึง MRT Bugis (Exit C) และ ~8 นาทีถึง Arab Street/Haji Lane ห้องเล็ก ~12–14 ตร.ม. มีแบบมี/ไม่มีหน้าต่าง สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ ด้านข้างมี 7-Eleven และร้าน ผัดไทย Flying Pig ข้อเสีย: ห้องเล็ก ไม่มีตู้เสื้อผ้า (มีที่แขวนแทน) ช่วงเช็คอิน/เอาต์อาจมีคิว ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,000-4,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Village Hotel Bugis

โรงแรม 4 ดาวใหญ่ (~390 ห้อง) ติดหัวมุม Victoria × Arab St. เดิน ~5 นาทีถึง MRT Bugis (~400 ม.) จุดเด่นคือห้องเริ่ม ~32 ตร.ม. และมี สองเตียงควีน พัก 4 คนคุ้มกว่าจอง 2 ห้อง มีสระ/ฟิตเนส/ห้องอาหารฮาลาล The Landmark ทำเลเดินถึง มัสยิดสุลต่าน ~2 นาที / Bugis Street ~5 นาที รีวิวชอบห้องใหญ่ คุ้มราคา หลายห้องมีสายฉีดชำระ พนักงานช่วยเหลือดี ข้อเสีย: อาคารเก่าและช่วงเช้าอาจคิวลิฟต์/อาหารเช้า (กรุ๊ปเยอะ) ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,500-4,500 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Mercure Singapore Bugis

โรงแรม4 ดาวทำเลเทพ ใกล้ MRT Bugis (Exit C) ~3 นาที เดิน 5 นาทีถึง Bugis Street/วัดต่าง ๆ ห้อง ~15–18 ตร.ม. โทนเพอรานากันสดใส มี Loft สองชั้น เก๋ ๆ สำหรับ 2–3 คน สิ่งอำนวยความสะดวกเกินมาตรฐาน: ฟิตเนส, สระอินฟินิตี้รูฟท็อป + Jacuzzi, ห้องอาหาร Royale ข้อดีคือบริการรวดเร็ว (ดึก ๆ ก็ช่วยได้) ข้อเสีย: ห้องเล็ก ผนังเก็บเสียงพอใช้ บางห้องติดตึก—อยากได้วิวเลือก “Executive”  ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,500-5,500 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Andaz Singapore

โรงแรมหรู 5 ดาวใน DUO Tower (ชั้น 25–39) วิวเมืองสวยทุกห้อง ห้องมาตรฐานกว้าง ~38 ตร.ม. โทน Modern Asian มี มินิบาร์ฟรี + Nespresso ไฮไลต์: Infinity Pool ชั้น 25 และรูฟท็อปบาร์ Mr. Stork เชื่อมทางเดินใต้ดินเข้า MRT Bugis ตรงถึงล็อบบี้ ข้อเสีย: ราคาเริ่ม ~฿9,000+ และต้องเปลี่ยนลิฟต์เวลาเข้า-ออก ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,000-10,000 บาท

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

ทิปย่าน Bugis

ใต้ Bugis Junction มีซูเปอร์ Cold Storage ซื้อของฝากได้ถูกกว่าสนามบิน (หลัง 18:00 ของสดบางรายการลดราคา) และฝั่ง Bugis+ มี Don Don Donki 24 ชม. เผื่อหิวดึก ๆ แวะได้สะดวกสุด ๆ

Sentosa เป็นจุดหมายยอดฮิตของทริปสิงคโปร์ 🏝️ เพราะรวมความบันเทิงไว้ครบ ทั้ง Universal Studios Singapore, S.E.A. Aquarium และชายหาดสามเส้น—Siloso / Palawan / Tanjong เดินเล่นรับลมทะเลได้ทั้งวัน ทริปรอบนี้เราเลือกค้างบนเกาะสัก 1–2 คืน อยากตื่นมาเห็นทะเลใกล้ตัว แล้วเดินไปเล่นเครื่องเล่นได้เลยไม่ต้องนั่งรถวนไปมา

ทำไมหลายคนชอบพักที่นี่? เพราะทุกอย่างอยู่ในที่เดียว ทั้งสวนสนุก ห้าง ร้านอาหาร คาเฟ่ บีชคลับ สายชิลดูพระอาทิตย์ตกได้ทุกเย็น ส่วนสายแอ็กทีฟมีทั้งบันจี้ เครื่องเล่นหวาดเสียว หรือ Adventure Cove Waterpark ให้เด็ก ๆ ปล่อยพลัง เซ็นโตซ่าเป็นเกาะท่องเที่ยวแบบปิด บรรยากาศปลอดภัย ผ่อนคลาย และโรงแรมส่วนใหญ่ให้ฟีลรีสอร์ตจริงจัง

การเดินทางบนเกาะและเชื่อมเมือง สะดวกเวอร์ 🤩 ขึ้น Sentosa Express จาก สถานี HarbourFront (MRT) ที่ห้าง VivoCity ข้ามเกาะแค่ ~5 นาที (ขาเข้า ~4 SGD บางช่วงมีโปรฟรี) ลงได้หลายจุด: สถานี Resorts World / Imbiah / Beach บนเกาะยังมีชัทเทิลบัสฟรี และ Beach Tram วิ่งเลียบทะเล ถนนร่มรื่น เดินเพลินได้

เดินเที่ยวใกล้ ๆ ถ้าอยู่ใกล้สถานีไหนก็ถึงจุดดัง ๆ ไว—USS, SEA Aquarium หรือชายหาด แถว Siloso ข้ามถนนก็จุ่มเท้าได้เลย จะนั่ง Beach Shuttle ไม่ถึง 5 นาทีไปอีกหาดก็ง่าย โซน Resorts World Sentosa รวมร้านอาหาร–ช้อปไว้เพียบ และถ้าจะออกนอกเกาะ นั่งโมโนเรลกลับ VivoCity แป๊บเดียว (ขาออกไม่เสียเงิน) ห้างใหญ่ ร้านแน่น ช้อปจุใจ 🛍️

ต่อเดียวถึงตัวเมือง จาก HarbourFront ต่อ MRT สาย North-East หรือ Circle ไป ไชน่าทาวน์ / มารีน่าเบย์ / ออร์ชาร์ด ราว 15–20 นาที เช้าวันเช็คเอาต์ฝากกระเป๋าไว้ แวะไหว้พระ–ถ่ายรูป เมอร์ไลอ้อน แล้วค่อยกลับมารับของยังทัน

จากสนามบิน Changi มาที่ เกาะเซนโตซ่า(Sentosa)

• MRT: จาก สถานี Changi เปลี่ยนที่ Tanah Merah เข้าเมือง ต่อที่ สถานี Outram Park ไปลง สถานี HarbourFront รวม ~50–60 นาที ค่าโดยสารคนละราว ~2 SGD (~50 บาท) แล้วต่อ Sentosa Express ~4 SGD ถ้ากระเป๋าใหญ่ควรเผื่อแรงและเวลาเปลี่ยนขบวน

• แท็กซี่/Grab: ตรงถึงหน้าโรงแรม ~25–30 นาที ประมาณ ~30 SGD (~750 บาท) เหมาะกับ 3–4 คนหรือสัมภาระเยอะ ประหยัดแรงเดินเปลี่ยนรถ

นอกเหนือจากการเลือกที่พักตามย่านหรือตามงบแล้ว สิงคโปร์ยังมีโรงแรมหลายแห่งที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับคนไทยที่อยากได้ ประสบการณ์พิเศษ เพิ่มสีสันให้ทริปค่ะ เราคัด “Special Picks” มาให้ 5 แบบ ตามความสนใจต่างๆ ลองดูว่าชอบสไตล์ไหนกันบ้าง

▌โรงแรมใกล้สนามบิน – Crowne Plaza Changi Airport

โรงแรม 5 ดาวในอาคารผู้โดยสาร 3 ตกแต่งทรอปิคอล เชื่อม Jewel เดินถึง Shiseido Forest Valley มีสระกลางแจ้งท่ามกลางสวนปาล์ม ห้องกว้าง ~36 ตร.ม. เก็บเสียงดี เหมาะกับไฟลท์ดึก/เช้า ครอบครัว หรือคู่รักดูเครื่องบินขึ้น–ลง ราคา ~6,000–8,000 บาท/คืน ข้อเสีย: ราคาแรงกว่าพักในเมือง และตัวเลือกร้านโลคอลถูก ๆ ต้องพึ่งใน Jewel/สนามบิน แนะนำเช็คดีล/แพ็กเกจ Day-use ก่อนจอง

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌โรงแรมใกล้ USS – Hard Rock Hotel, Resorts World Sentosa

โทนร็อกเท่ ห้อง ~40 ตร.ม. ไฮไลต์คือสระลากูนทรายขาวฟีลบีช เดิน ~5 นาทีถึง USS และ SEA Aquarium เหมาะครอบครัว–กลุ่มเพื่อน–คู่รักสายสนุก ราคา ~5,000–7,000 บาท/คืน ข้อเสีย: บรรยากาศคึกคัก เด็กเยอะช่วงเทศกาล อาจไม่เงียบ แนะนำเช็คโปรที่รวมบัตร USS

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda

▌Best Hotel Restaurant – The Ritz-Carlton Millenia (Colony & Summer Pavilion)

Summer Pavilion จีนมิชลิน 1 ดาว (ติ่มซำ/เป็ดปักกิ่ง) และบุฟเฟต์ Colony วัตถุดิบพรีเมียม วิว Marina Bay หรู ราคาโดยประมาณ: Colony ดินเนอร์ ~3,000 บาท/คน, Summer Pavilion à la carte ~2,500–4,000 บาท เหมาะโอกาสพิเศษ ควรจองล่วงหน้า โดยเฉพาะ ศ–ส

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Best Design Hotel – The Warehouse Hotel

โกดังปี 1895 รีโนเวตเป็นบูทีคหรู 37 ห้อง สไตล์ Industrial Chic เพดานสูง ริมน้ำ Robertson Quay ใกล้ MRT Fort Canning ~700 ม. ราคา ~7,000–9,000 บาท/คืน (รวมอาหารเช้า) เหมาะคู่รัก/สายดีไซน์ ข้อสังเกต: ไม่มีเตียงทวิน หน้าต่างใหญ่มีจำกัด และไม่ติด MRT มาก

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Historic Hotel – Raffles Hotel Singapore

ไอคอนโคโลเนียลเปิดปี 1887 ทุกห้องเป็น Suite 58–260 ตร.ม. มีบัตเลอร์ 24 ชม. บ้านเกิดค็อกเทล Singapore Sling ที่ Long Bar ราคา ~25,000–50,000 บาท/คืน เหมาะฮันนีมูน/ผู้ใหญ่อยากพักเงียบหรู ข้อเสีย: บรรยากาศเป็นทางการ วิวส่วนใหญ่เป็นสวนภายใน (ถ้างบไม่ถึง แวะจิบชายามบ่ายได้)

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌Best Landmark View – Marina Bay Sands (MBS)

ไอคอนสิงคโปร์ สระ Infinity ชั้น 57 วิวเมืองสุดอลัง ห้องกระจกเต็มบาน แนะนำฝั่ง Gardens by the Bay กลางคืนไฟสวย เชื่อม The Shoppes, คาสิโน และ MRT Bayfront สะดวกครบจบที่เดียว ข้อเสีย: ราคาหลักหมื่น/คืน และเสาร์–อาทิตย์คิวเช็คอินยาว

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นที่ : Agoda | TRIP

▌ก่อนบิน: เตรียมตัวยังไงให้ทริปลื่น

• เอกสารเข้าเมือง & แบบฟอร์มเข้าเมือง (SGAC): กรอก SG Arrival Card ล่วงหน้าภายใน 3 วันก่อนถึง (รวมวันเดินทาง) จะได้ผ่านตม.ไวขึ้น และ e-Pass จะส่งเข้ามือถือ ไม่ปั๊มตราแล้วนะ

• ผ่านตม.ช่องอัตโนมัติ (e-Gate): นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่อายุ 6+ ปี และมีพาสปอร์ตแบบมีชิป สามารถใช้ ช่องอัตโนมัติ ได้เลย เข้าช่องครั้งแรกระบบจะลงทะเบียนชีวมิติให้อัตโนมัติ

• เงิน & การจ่าย: สิงคโปร์เป็นสังคมไร้เงินสดเต็มตัว ใช้ บัตรเครดิต/เดบิตแบบแตะ (Visa/Mastercard/Amex) จ่ายค่า MRT/รถบัสได้เลยผ่าน SimplyGo หรือจะผูกลงมือถือ (Apple/Google Pay) ก็ได้ แต่ บัตรต่างประเทศอาจมี ค่าธรรมเนียม/อัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มเล็กน้อยจากธนาคาร

• ภาษี & เซอร์วิสชาร์จ: ร้านอาหารหลายร้านคิด Service charge 10% + GST 9% เวลาดูบิลให้เผื่อส่วนนี้ไว้ด้วย

• ระวังทิชชู่เปียก: หลายร้านอาหารเวลาเข้าไปนั่งแล้วเขาจะเอาทิชชู่เปียกใส่ซองมาวางให้ ไม่ฟรีนะ ราคาแพงด้วย 1-2$SG ต่อห่อเลย

• เน็ต: eSIM ง่ายสุด สัญญาณแรงทั่วเกาะ โหลดแอป Grab/Gojek/TADA เรียกรถ, TransitLink/SimplyGo เช็กเส้นทาง/ค่าโดยสาร, Maps ไว้เดิน–ต่อรถ

• อากาศ: ร้อนชื้น 27–33°C ฝนตกได้ทุกวัน พกร่มพับ+ขวดน้ำรีฟิล เดินกลางวันอาจฮีตจัด แพลนจุดแวะในห้าง/พิพิธภัณฑ์สลับเอาท์ดอร์จะสบายกว่า

• กฎเล็ก ๆ แต่สำคัญ: ห้ามกิน/ดื่มใน MRT ฝ่าฝืนปรับได้ถึง S$500 (น้ำเปล่าก็ห้ามในขบวนรถ) เก็บแก้วชานมไว้ดื่มที่สถานีปลายทางนะ 😉

• ปลั๊กไฟ: หัวสามขาแบบอังกฤษ (Type G) 230V ถ้าใช้หัวสองขาต้องมีอะแดปเตอร์

▌เข้าสู่เมืองจากสนามบินชางงี (Changi)

• MRT: นั่งสาย East–West Line (สีเขียว) จาก Changi Airport เข้าเมือง สะดวก ประหยัด เปลี่ยนขบวนที่ Tanah Merah แล้วไปต่อย่านกลางเมือง (City Hall/Raffles Place) ได้เลย

• แท็กซี่/รถเรียกแอป: สบายสุดสำหรับครอบครัวหรือมีสัมภาระเยอะ

• Terminal 4: ไม่มีสถานี MRT ตรง ต้องนั่ง ชัตเทิลบัสฟรีจาก T2/MRT → T4 (เวลากลางวันทุก ~8–13 นาที)

▌เดินทางในเมืองแบบมือใหม่

• แตะบัตรที่มีอยู่เลย (SimplyGo): เอาบัตรเครดิต/เดบิตที่พกอยู่แตะเข้า–ออก MRT/รถบัสได้ทันที ไม่ต้องหยอดเงิน ไม่ต้องซื้อบัตรแยก สะดวกมากสำหรับทริปสั้น ๆ (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมโพสต์รายการเล็กน้อยสำหรับบัตรต่างประเทศ)

• Singapore Tourist Pass (STP): ถ้าเน้นขึ้น–ลงถี่ ๆ ทั้งวัน ลองดู STP ราคาล่าสุดโดยประมาณ 1 วัน S$17 / 2 วัน S$24 / 3 วัน S$29 และยังมี 4–5 วัน ให้เลือกด้วย เช็กจุดขายได้ที่ตู้/เคาน์เตอร์ในเมืองและสนามบิน
  ทริค: ถ้าวันไหนขึ้น–ลงไม่ถึง 5–6 เที่ยว/คน ใช้ SimplyGo มักคุ้มกว่า แต่ถ้าตะลุยหลายย่านทั้งวัน STP ชนะเรื่องความสบายใจ

▌ตัวอย่างแผนเที่ยว 3 วัน แบบง่ายๆ

• วันที่ 1: ถึงชางงี → แวะ Jewel ถ่ายน้ำตก → เช็กอิน → เย็นเดิน Marina Bay ดูแสงสี

• วันที่ 2: เช้า Gardens by the Bay → บ่าย Chinatown/Maxwell → ค่ำ Clarke Quay นั่งเรือ River Cruise

• วันที่ 3 (เลือกสายที่ชอบ): Sentosa (USS/SEA Aquarium) หรือ Singapore Zoo–River Wonders หรือ สายเมือง Haji Lane–Bugis–Orchard

Q: มือใหม่ไปสิงคโปร์ครั้งแรกควรพักย่านไหนดี?

A: สำหรับมือใหม่ ที่ยังไม่เคยไป เราแนะนำ ย่าน Orchard หรือ Chinatown ค่ะ เพราะเดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้าและมีของกินสะดวกตลอด Orchard จะได้เปรียบเรื่องห้าง ร้านอาหาร และบรรยากาศกลางเมืองปลอดภัยมาก ส่วน Chinatown จะเด่นเรื่องอาหารสตรีทฟู้ดและราคาที่พักถูกลงมาหน่อย ทั้งสองย่านนี้มีคนไทยนิยมพักเยอะ รีวิวข้อมูลเพียบ มือใหม่ไปเองได้ไม่ยากค่ะ

Q: คนไทยสายกิน สายช้อป ควรพักโซนไหน?

A: ถ้าเน้น กินช้อปแบบจุใจ ต้องยกให้ ย่าน Bugis / Chinatown เลย – ย่าน Bugis มีทั้งตลาดถนน (Bugis Street) ของกินท้องถิ่นใน Albert Centre และห้าง Bugis Junction ให้ช้อปปิ้ง ส่วน Chinatown ก็เรียกว่าศูนย์รวมของอร่อย ข้าวมันไก่ เทียนเทียน, บักกุ๊ดเต๋ ร้านดัง, ติ่มซำ Michelin Bib อยู่แถวนั้นหมด แถมมี Chinatown Complex ให้เดินซื้อของฝากถูกๆ ด้วย ทั้งสองย่านนี้เดินเล่นสนุก ของกินไม่แพง ถูกใจสายกินสายช้อปแน่นอน

Q: ไปเที่ยวกันแบบครอบครัว มีเด็กเล็ก ควรเลือกย่านอะไร?

A: ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก แนะนำ พักย่าน HarbourFront / Sentosa จะเหมาะค่ะ เพราะอยู่ใกล้สวนสนุก Universal Studios, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA Aquarium และชายหาดเซ็นโตซ่าสำหรับเด็กๆ นอกจากนี้โรงแรมแถวนั้นหลายแห่ง (เช่น Hotel Michael, Hard Rock Hotel) ออกแบบเอื้อต่อเด็กๆ มีสระว่ายน้ำเด็ก มีห้อง Family Room ให้เลือกด้วย แต่ถ้าอยากพักในเมืองก็เลือกโรงแรมที่มีห้อง Family ย่าน Bugis หรือ Orchard ซึ่งห้างเยอะ ร้านอาหารครบ จะสะดวกเวลาเตรียมของให้เด็กๆ ค่ะ

Q: ถ้าอยากได้วิวแลนด์มาร์กสวยๆ จากห้องพักจริงๆ ควรเลือกโรงแรมไหน?

A: ต้องเป็น Marina Bay Sands หรือ Fullerton Bay Hotel เลยค่ะ – Marina Bay Sands จะได้วิวเมืองสิงคโปร์กว้างๆ จากห้องชั้นสูง และมีพระเอกคือวิวจากสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ส่วน Fullerton Bay Hotel เป็นโรงแรมเดียวที่อยู่กลางน้ำของอ่าวมารีน่า ทำให้วิวห้องพักจะเห็นตึกเรือ MBS และอ่าวแบบใกล้ชิดสุดๆ โรแมนติกมาก (แต่ราคาก็แรงมากเช่นกัน 😂) ถ้างบเบาลงมาหน่อยก็มี Swissotel The Stamford ที่สูง 73 ชั้น ได้วิวเมืองและอ่าวสวยๆ จากระเบียงส่วนตัวก็คุ้มค่าในราคาที่เอื้อมถึงกว่าค่ะ

Q: ไปกับเพื่อนกลุ่ม 3–4 คน ควรเลือกพักห้อง Family Room หรือจอง 2 ห้องแยกกันดี?

A: ตอบตามตรงคือ แล้วแต่งบและไลฟ์สไตล์ เลยค่ะ 😁 ถ้าเพื่อนสนิทกันมาก แชร์ห้องใหญ่ห้องเดียวสนุกๆ ก็ประหยัดดี ได้อยู่ด้วยกันตลอด (โรงแรมหลายแห่งมีห้องสำหรับ 4 คน เช่น Village Bugis, Hotel Boss มีสองเตียงใหญ่) ข้อดีคือคุยเล่นดูหนังด้วยกันได้ทั้งคืน แต่ข้อเสียคือต้องแบ่งห้องน้ำกันและอาจนอนไม่สบายเท่ามีเตียงใครเตียงมัน ในทางกลับกัน ถ้าเปิด 2 ห้องแยกกัน ทุกคนก็จะมี พื้นที่ส่วนตัว พักผ่อนสบายกว่า มีห้องน้ำ 2 ห้องไม่ต้องแย่งกันแต่งหน้า แต่ก็แพงขึ้นนิดนึงและต้องเดินหากันบ่อยๆ สรุปง่ายๆ ถ้างบไม่ใช่ปัญหา เปิดสองห้องก็ดีค่ะ แต่ถ้าอยากประหยัดหรือเน้นความเฮฮา ก็จัดห้องแฟมิลี่ไปเลย จะได้เม้ามอยกันสนุกๆ 😆

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกที่พักสิงคโปร์ที่ถูกใจและตรงสไตล์ตัวเองกันได้นะคะ เที่ยวให้สนุกและเก็บความทรงจำดีๆ กลับมาเยอะๆ แล้วไว้เจอกันทริปหน้าค่ะ! 🎉🏨✨