30 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ สวย ฮิต ห้ามพลาด 2025

top-places-shanghai-china-2

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 25 กันยายน 2568

 

เซี่ยงไฮ้(Shanghai) ถึงแม้จะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศจีน แต่ก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของจีนและของโลกอีกด้วย ภายในเมืองมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมที่งดงามหลายแห่ง ที่เป็นการผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ที่สำคัญภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกหลายแห่ง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างเช่น 20 สถานที่ต่อไปนี้ เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

 

 

 

| TABLE OF CONTENS

 

 

 

เที่ยวเซี่ยงไฮ้ นอนย่านไหนดี?

ย่านยอดฮิตที่คนไทยนิยมพักในเซี่ยงไฮ้ก็มี People’s Square, The Bund, และ Xintiandi ย่าน People’s Square อยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานที่สำคัญอย่าง Shanghai Museum และ Nanjing Road สะดวกทั้งช้อปปิ้งและเที่ยว พร้อมการเดินทางที่ง่ายจาก People’s Square Station (สาย 1, 2, 8) อีกย่านหนึ่งคือ The Bund มีวิวสวยของตึกระฟ้าและอยู่ใกล้แลนด์มาร์คอย่าง Oriental Pearl Tower สามารถเดินทางได้จาก East Nanjing Road Station (สาย 2, 10) ส่วนถ้าใครชอบร้านอาหารเก๋ ๆ หรือแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนก็ต้อง Xintiandi ที่มีบรรยากาศผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเก่าแก่ เดินทางสะดวกจาก Xintiandi Station (สาย 10, 13)

 

 

 

1. หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl Tower)

dzystudio/shutterstock.com

ziyou/shutterstock.com

mihaiulia/shutterstock.com

หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl Tower) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก หอแห่งนี้มีความสูง 468 เมตร ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีน หอไข่มุกตะวันออก ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวจีนนามว่า ชาง ยี่หลิน และ หาง เทียนเหยียน การออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีโบราณจีนที่กล่าวถึง “ไข่มุกที่ตกลงมาจากท้องฟ้า” ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการใช้ลูกกลมๆ จำนวน 11 ลูกที่เชื่อมต่อกันด้วยเสากลางที่เป็นตัวแทนของไข่มุก ลูกกลมที่ใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เมตร ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับไข่มุกที่ถูกเรียงร้อยกันอย่างประณีต ที่สำคัญ หอไข่มุกตะวันออก ไม่ได้เป็นเพียงแค่หอคอยที่สูงสง่างามเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น จุดชมวิวที่อยู่สูงถึง 263 เมตร และสามารถชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้และแม่น้ำหวงผู่ได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมีชั้นที่เป็นกระจกใส ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนกระจกเพื่อมองทะลุลงไปด้านล่าง ซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย รวมทั้งบนหอแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ ภัตตาคารหมุน และ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองเซี่ยงไฮ้ อีกด้วย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 มาลงสถานี Lujiazui จากนั้นเดินออกที่ทางออกหมายเลข 1

– ที่ตั้ง 1 Shiji Blvd, Lujiazui, Pudong, Shanghai, China 200120

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/wAGmvBzjCrzsc2Ef8

 

 

 

 

2. เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)

QingQing12/shutterstock.com

Yingna Cai/shutterstock.com

Air Elegant/shutterstock.com

เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) ตั้งอยู่ในเขตผู่ตง ของเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นสวนสนุกแห่งแรกของบริษัทดิสนีย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2016 และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Shanghai Disney Resort ซึ่งรวมถึงโรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้ง เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความสนใจของชาวจีน ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของดิสนีย์ที่เรารู้จัก หนึ่งในจุดเด่นของเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์คือ “ปราสาทแห่งนิทานเทพนิยาย” (Enchanted Storybook Castle) ซึ่งเป็นปราสาทดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นปราสาทที่รวบรวมนิทานเทพนิยายดิสนีย์หลายเรื่องไว้ในที่เดียว ทำให้ปราสาทนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสวนสนุกและเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ภายในสวนสนุกประกอบด้วยหลายโซนที่มีธีมต่างกัน เช่น Mickey Avenue โซนต้อนรับที่มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย, Gardens of Imagination เป็นที่ตั้งของปราสาทแห่งนิทานเทพนิยาย, Fantasyland โซนที่จะพานักท่องเที่ยวเข้าสู่โลกของนิทานดิสนีย์ พบกับเครื่องเล่นที่มีธีมจากนิทานยอดนิยม, Adventure Isle โซนที่เต็มไปด้วยการผจญภัยในป่า และ Treasure Cove โซนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโจรสลัดและทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมการผจญภัยไปกับเครื่องเล่นที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อัปเดตล่าสุด: ปลายปี 2023 ที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ได้เปิดโซนใหม่ “Zootopia Land” ซึ่งเป็นธีมแลนด์ที่สร้างจากแอนิเมชัน Zootopia แห่งแรกของโลก เพิ่มความน่าสนุกให้สวนสนุกขึ้นไปอีกขั้น นักท่องเที่ยวจะได้พบกับบรรยากาศเมือง Zootopia ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและตัวละครสุดน่ารัก พร้อมเครื่องเล่นไฮเทคอย่าง Zootopia: Hot Pursuit ที่จำลองการผจญภัยไล่ล่าแบบในภาพยนตร์ (ใครเป็นแฟนเรื่องนี้ต้องฟินแน่นอน!)

– ที่ตั้ง Shanghai Disney Resort, Pudong, Shanghai, China

– ค่าเข้าชม ราคาตั๋วเริ่มต้นที่ 107 หยวน

– เว็บไซต์ www.shanghaidisneyresort.com

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/r82j58zxxDLJcw5VA

 

 

 

 

3. เดอะบันด์ (The Bund)

Luciano Mortula – LGM/shutterstock.com

f11photo/shutterstock.com

Yang Wei Chen/shutterstock.com

เดอะบันด์ (The Bund) หรือมีชื่อในภาษาจีนว่า “ไว่ทัน” ที่นี่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และศูนย์กลางวัฒนธรรมของเมืองเซี่ยงไฮ้ ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหวงผู่ เดอะบันด์เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงยุคอาณานิคมของเซี่ยงไฮ้ในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่ออังกฤษและชาติยุโรปเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำการค้า พื้นที่นี้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าที่สำคัญ และเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานของธนาคารระหว่างประเทศ บริษัทข้ามชาติ รวมไปถึงสถานทูตต่างประเทศ อาคารสำนักงานต่างๆ ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นตามสไตล์สถาปัตยกรรมตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น สไตล์นีโอคลาสสิก บารอค และอาร์ตเดโค แต่ละอาคารมีเรื่องราวและประวัติความเป็นมาที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เดอะบันด์เป็นเสมือน “พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมกลางแจ้ง” ของนครเซี่ยงไฮ้ สำหรับกิจกรรมน่าสนใจก็อย่างเช่น การเดินเล่นริมน้ำชมวิวที่งดงามของฝั่งผู่ตง, ล่องเรือชมวิวในแม่น้ำหวงผู่ ชมความงดงามของเดอะบันด์และวิวทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้จากมุมมองที่แตกต่าง, แวะช้อปปิ้ง และ รับประทานอาหาร จากร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่มีทั้งสไตล์ดั้งเดิมและทันสมัย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้สาย 2 หรือสาย 10 มาลงที่สถานี Nanjing East Road แล้วเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

– ที่ตั้ง Zhongshan Rd (E-1), Waitan, Huangpu, Shanghai, China 200002

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/AMGMgTfRM3okV4bDA

 

 

 

 

4. สวนอวี้ (Yu Garden)

Sean Pavone/shutterstock.com

LapaiIrKrapai/shutterstock.com

cyo bo/shutterstock.com

สวนอวี้ (Yu Garden) หรือที่เรียกว่า “สวนแห่งความสุข” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของเซี่ยงไฮ้ สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง โดยผู้ว่าราชการเมืองชื่อ พาน ยุนตวน (Pan Yunduan) ตั้งใจสร้างสวนนี้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว สวนอวี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 20,000 ตารางเมตร ภายในแบ่งออกเป็น 6 ส่วนหลักๆ ได้แก่ โซนหินใหญ่, หอคอย, สะพานโค้ง, สวนพฤกษศาสตร์, สระน้ำ, และ โถงอาคารต่าง ๆ ทุกโซนถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยใช้เทคนิคการจัดสวนแบบจีนโบราณ ที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน การจัดเรียงหิน การวางสระน้ำ และการออกแบบทางเดินที่โค้งเคี้ยว สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามและปรัชญาในการออกตกแต่งสวนแบบจีน นอกจากความสวยงามของสวนแล้ว สวนอวี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ที่ใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะจีนโบราณ เช่น การแกะสลักหยก การเขียนพู่กัน และการจัดดอกไม้จีน นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรมจีนได้อย่างลึกซึ้งผ่านกิจกรรมและการแสดงที่จัดขึ้นภายในสวนแห่งนี้

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ สาย 10 หรือสาย 14 ไปลงที่สถานี Yu Garden Station ออกทางออกที่ 1

– ที่ตั้ง 279 Yu Yuan Lao Jie, Huangpu, Shanghai, China 200000

– พิกัด https://goo.gl/maps/mrciabFyzQ79h4BS8

 

 

 

 

5. วัดจิงอัน (Jing’an Temple)

Sergei Mugashev/shutterstock.com

TK1012/shutterstock.com

crowley production/shutterstock.com

วัดจิงอัน (Jing’an Temple) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ ที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางย่านจิ้งอัน ซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง วัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญ และยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่นับถือศาสนาพุทธมักมาเยือน เพื่อสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพักผ่อนใจในบรรยากาศที่เงียบสงบ ตัวอาคารของวัดมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ด้วยโครงสร้างไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต เป็นโทนสีทองและสีแดง สีที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความรุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน รวมทั้งภายในวัดยังประกอบด้วยโถงบูชาหลัก 3 แห่ง ได้แก่ โถงพระมหาโพธิสัตว์ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปหยกที่สูงกว่า 3.8 เมตร, โถงพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปกวนอิมที่แกะสลักจากไม้จันทน์ขาว และ โถงพระอมิตาภพุทธเจ้า พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีการปิดทองไว้อย่างงดงาม นอกจากนี้หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดชมหากเดินทางมาที่นี่ก็คือ ระฆังทองคำ ที่มีความสูงถึง 3.3 เมตร และหนักกว่า 5 ตัน ถูกนำมาติดตั้งในวัดจิ้งอัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบและโชคดี

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ สาย 2 หรือสาย 7 มาลงที่สถานี Jing’an Temple Station ออกทางออกที่ 1 และเดินต่อเพียงไม่กี่นาที หรือ ขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 15, 20, 40, 113, 315, 321, 330, 824, 830 หรือ 927 มาลงที่สถานี Jing’an Temple

– ที่ตั้ง 1686 Nanjing Rd (W), Jing’An, Shanghai, China 200040

– พิกัด https://goo.gl/maps/6zxLwzj6VZUkPQ4R9

 

 

 

 

6. ศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้ (Shanghai World Financial Center)

HelloRF Zcool/shutterstock.com

mihaiulia/shutterstock.com

askarim/shutterstock.com

ศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้ (Shanghai World Financial Center) เป็นตึกสูงระฟ้า ด้วยความสูงกว่า 500 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางย่านผู่ตง ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจของเมือง ตึกนี้ไม่ได้เพียงแค่เป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและความก้าวหน้าของเซี่ยงไฮ้อีกด้วย Shanghai World Financial Center (SWFC) ถูกออกแบบโดยบริษัท Kohn Pedersen Fox (KPF) บริษัทสถาปนิกชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา การออกแบบตึกเน้นที่ความสมดุลและความเรียบง่าย แต่ยังคงความโดดเด่นและล้ำสมัย ตัวตึกมีรูปทรงคล้ายกับขวดเปิดฝา เนื่องจากมีช่องว่างขนาดใหญ่บริเวณยอดของอาคาร ที่ทำหน้าที่ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง ช่องว่างดังกล่าวยังทำให้ตึกนี้มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ที่สามารถจำได้ง่าย ตัวอาคาร มีทั้งหมด 101 ชั้น แบ่งออกเป็นพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย เช่น สำนักงาน โรงแรม ร้านค้า และจุดชมวิว นอกจากความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแล้ว SWFC ยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของเซี่ยงไฮ้ โดยมีสำนักงานของบริษัทการเงิน ธนาคาร และบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำจากทั่วโลกตั้งอยู่ในอาคารนี้ สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมตึกคือช่วงเย็นถึงค่ำ เนื่องจากเราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองในช่วงพระอาทิตย์ตกและไฟเมืองที่สวยงามในยามค่ำคืน

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ สาย 2 ลงที่สถานี Lujiazui Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

– ที่ตั้ง 100 Century Avenue, Pudong new district, Shanghai, China 200120

– พิกัด https://goo.gl/maps/C1wrS9R9b95ShTDC9

 

 

 

 

7. ถนนหนานจิง (Nanjing Road)

Anton_Ivanov/shutterstock.com

YIUCHEUNG/shutterstock.com

August_0802/shutterstock.com

ถนนหนานจิง (Nanjing Road) ถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและพลุกพล่านที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ถนนเส้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย โดยมีทั้งห้างสรรพสินค้าหรูหรา ร้านค้าท้องถิ่น และสถานที่ประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถนนหนานจิงถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของเซี่ยงไฮ้ ถนนเส้นนี้แบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลักๆ คือ ถนนหนานจิงตะวันออก และถนนหนานจิงตะวันตก โดยถนนหนานจิงตะวันออกมีชื่อเสียงในด้านเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญและคึกคัก ด้วยร้านค้าที่หลากหลายตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก ไปจนถึงร้านค้าท้องถิ่นที่จำหน่ายสินค้า ของที่ระลึก และของฝากพื้นเมือง รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เช่น ห้างสรรพสินค้า First Food Hall และ Henderson Metropolitan จึงเป็นโซนที่น่าสนใจทั้งกับผู้ที่ต้องการช้อปปิ้งและลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ส่วนถนนหนานจิงตะวันตกเป็นย่านธุรกิจ และที่ตั้งของโรงแรมหรู รวมไปถึงร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก สำหรับร้านค้าที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่น Plaza 66 และ Westgate Mall นอกจากนี้ยังมีโรงแรมระดับห้าดาว เช่น The Portman Ritz-Carlton ที่สร้างขึ้นมาเพื่อต้อนรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวระดับสูง
– การเดินทาง ถนนหนานจิงตะวันออก รถไฟใต้ดินสาย 2, สาย10 ลงที่สถานี East Nanjing Rd. Station ส่วนถนนหนานจิงตะวันตก รถไฟใต้ดินสาย 1, สาย 2 และ สาย 8 ลงที่สถานี People’s Square Station

– ที่ตั้ง Nanjing East Road & Nanjing West Road, Huangpu District & Jing’an District, Shanghai, China
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/o96mDsqibaE8gSvs7

 

 

 

 

8. อุโมงค์ชมวิวเดอะบันด์ (The Bund Sightseeing Tunnel)

RudiErnst/shutterstock.com

robert paul van beets/shutterstock.com

robert paul van beets/shutterstock.com

อุโมงค์ชมวิวเดอะบันด์ (The Bund Sightseeing Tunnel) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเซี่ยงไฮ้ อุโมงค์แห่งนี้เป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำสายแรกของประเทศจีน เชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งของแม่น้ำหวงผู่ โดยมีจุดเริ่มต้นที่ย่านเดอะบันด์ (The Bund) และสิ้นสุดที่ย่านผู่ตง (Pudong) ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของเมือง อุโมงค์มีความยาวประมาณ 646.7 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านด้วยรถรางไฟฟ้าที่ตัวรถเป็นกระจกใสเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ในระหว่างทางเราจะได้รับชมการแสดงแสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยภายในอุโมงค์จะมีการฉายภาพสามมิติ แสงเลเซอร์ ภาพเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงจักรวาล และการผจญภัย ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเส้นทาง The Bund Sightseeing Tunnel ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้การแสดงแสงสีภายในอุโมงค์เป็นไปอย่างไร้ที่ติ ระบบไฟและโปรเจคเตอร์ที่ใช้ในอุโมงค์นี้เป็นระบบที่ทันสมัยที่สุด ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับภาพและเสียงที่คมชัดและสมจริง นอกจากนี้ การใช้รถรางไฟฟ้าที่ตัวรถเป็นกระจก ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้ผู้โดยสารสามารถมองเห็นการแสดงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

– การเดินทาง รถไฟฟ้าใต้ดินเซี่ยงไฮ้ สาย 2 หรือสาย 10 ลงที่สถานี East Nanjing Road จากนั้นเดินเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงจุดเริ่มต้นของอุโมงค์ หรือขึ้นรถบัสสาย 82, 85, 583, 872, 65, 55, 21 และ 37 มาลงที่สถานี Lujiazui

– ที่ตั้ง 349 Zhongshan Rd (E-1), Waitan, Huangpu, Shanghai, China 200002

– พิกัด https://goo.gl/maps/bFZ7rvHaVQtawqfz5

 

 

 

 

9. เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town)

Raksit Jirojmontree/shutterstock.com

Sven Hansche/shutterstock.com

Sven Hansche/shutterstock.com

เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town) ที่นี่เป็นเมืองโบราณ มีประวัติยาวนานกว่า 1,700 ปี ตั้งอยู่ในเขตชิงผู่ (Qingpu) ทางตะวันตกของเซี่ยงไฮ้ และเป็นที่รู้จักในฐานะ “เวนิสแห่งตะวันออก” เนื่องจากมีย่านการค้าริมน้ำ สะพานหินโบราณ และคลองที่เงียบสงบ เมืองจูเจียเจี่ยวยังจัดเป็นสถานที่ที่แสดงถึงวิถีชีวิตชาวจีนโบราณ ที่ยังคงรักษารูปแบบเดิมๆ ไว้อย่างดีจนถึงปัจจุบัน จูเจียเจี่ยวก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้น และได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นเมืองการค้าในสมัยราชวงศ์หมิง เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ในภูมิภาคและเป็นแหล่งผลิตสินค้าพื้นเมือง เช่น ผ้าไหม ข้าว และชา ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ “สะพานฟางเซิ่ง” (Fangsheng Bridge) ซึ่งเป็นสะพานหินที่ยาวที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเมือง สะพานนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1571 และมีความสูงพอที่จะให้เรือผ่านได้ง่าย นอกจากนี้ สะพานฟางเซิ่งยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของคลองและบ้านเรือนริมฝั่ง ต่อด้วย วัด “จู่เจียว” (Zhujiajiao Temple) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดแวะมาเยี่ยมชม วัดนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็ๆ กลางคลอง มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ภายในวัดมีรูปปั้นพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสักการบูชา

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ มาลงที่สถานี Zhujiajiao หรือรถไฟใต้ดิน สาย 17 มาลงที่ สถานี Zhujiajiao แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที นอกจากนี้ยังมีทัวร์แบบวันเดียวที่จัดขึ้นโดยบริษัททัวร์ในเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

– ที่ตั้ง Zhujiajiao Town, Qingpu District, Shanghai, China 201713

– พิกัด https://goo.gl/maps/R4UfwDC871nUht8KA

 

 

 

 

10. วัดพระหยก (Jade Buddha Temple)

anek.soowannaphoom/shutterstock.com

Markeliz/shutterstock.com

Marijs Jan/shutterstock.com

วัดพระหยก (Jade Buddha Temple) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่สำคัญของชาวพุทธในภูมิภาคนี้อีกด้วย วัดพระหยกสร้างขึ้นในปี 1882 ในสมัยราชวงศ์ชิง โดยมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการนำพระพุทธรูปหยกสององค์จากพม่าไปยังเซี่ยงไฮ้ พระพุทธรูปหยกทั้งสององค์นี้เป็นของขวัญจาก Mr. Chen Jun-Pu ชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศพม่าได้ถวายแด่พระอาจารย์ Hui Gen พระธุดงค์ชาวจีนที่เดินทางไปเผยแผ่พุทธศาสนาในพม่า วัดพระหยกยังเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ตัววัดถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของศิลปะจีนดั้งเดิม มีลักษณะคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์ซ่ง พระพุทธรูปหยกที่มีความโดดเด่นที่สุดในวัดคือพระพุทธรูปหยกขาวที่มีความสูงประมาณ 1.9 เมตร แกะสลักจากหยกชิ้นเดียวและมีรายละเอียดที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปหยกนอน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งทรงตรัสรู้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมทางศาสนาหลากหลาย เช่น พิธีสวดมนต์ พิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ และการฝึกสมาธิ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและปรัชญาพุทธศาสนา รวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวจีนภายในวัดแห่งนี้ได้อีกด้วย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย13 ลงสถานี Jiang Ning Road ออกทางออก 4 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

– ที่ตั้ง 170 Anyuan Rd, Jing’An, China 200061

– พิกัด https://goo.gl/maps/KPNc9r7zora11vhF9

 

 

 

 

11. พิพิธภัณฑ์ศิลปะจีน (China Art Museum)

Richie Chan/shutterstock.com

MFO1981/shutterstock.com

Alisty/shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์ศิลปะจีน (China Art Museum) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 โดยมีเป้าหมายในการนำเสนอและส่งเสริมศิลปะจีนให้กับคนรุ่นใหม่และผู้ชมจากทั่วโลก ภายในพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว่า 166,000 ตารางเมตร ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์มีการออกแบบด้วยผลงานสถาปัตยกรรม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงปิรามิดกลับหัว ผสมผสานศิลปะจีนโบราณเข้ากับความทันสมัย นอกจากนี้ด้านนอกของอาคารยังถูกออกแบบให้เป็นโทนสีแดงสด สีที่สื่อถึงความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน ภายในพิพิธภัณฑ์มีคอลเลกชันศิลปะที่หลากหลาย โดยมีผลงานศิลปะกว่า 14,000 ชิ้น ครอบคลุมตั้งแต่ศิลปะจีนโบราณไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการศิลปะ ที่นำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคในประเทศจีน รวมทั้งยังมีโซนที่จัดแสดงศิลปะนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น การแสดงศิลปะจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกา นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดศิลปะและพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การฉายภาพยนตร์ศิลปะ การจัดนิทรรศการพิเศษหมุนเวียน และการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ผู้เข้าชม

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 8 มาลงที่สถานี China Art Museum ออกทางออกที่ 3 จากนั้นเดินเลี้ยวซ้ายย้อนขึ้นไปอีกประมาณ 5 นาที

– ที่ตั้ง 205 Shangnan Rd, Pudong New Area, Shanghai, China 200010

– พิกัด https://goo.gl/maps/oGe7xCqLPvMjnUzZ6

 

 

 

 

12. เลโก้แลนด์ เซี่ยงไฮ้ รีสอร์ต (Legoland Shanghai Resort)

สำหรับครอบครัวที่มีเด็กหรือใครที่เป็นสาวกตัวต่อ LEGO ห้ามพลาด เลโก้แลนด์ เซี่ยงไฮ้ รีสอร์ต สวนสนุกแห่งใหม่ล่าสุดของจีนที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา ที่นี่เป็น Legoland แห่งแรกในประเทศจีน และยังเป็นเลโก้แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เมื่อวันเปิด) ด้วยพื้นที่กว่า 0.3 ตารางกิโลเมตร รีสอร์ตแบ่งเป็นโซนธีมสนุก ๆ ถึง 8 โซน มีเครื่องเล่นแบบอินเทอร์แอคทีฟ การแสดง และจุดถ่ายรูปมากกว่า 75 ชนิด สร้างสรรค์จากตัวต่อ LEGO รวมกว่า 85 ล้านชิ้น ไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต หรือผู้ใหญ่ ก็สามารถสนุกเพลิดเพลินและปลดปล่อยจินตนาการไปกับโลกตัวต่อหลากสีได้ทั้งวัน

ไฮไลต์ในเลโก้แลนด์เซี่ยงไฮ้ ได้แก่ ปราสาทเลโก้ (Lego Castle) สุดอลังการ, ดินแดนผจญภัย Ninjago, โซน Lego City เมืองจำลองที่เด็ก ๆ ขับรถเล่นได้, โซน Monkie Kid และ Friends ที่มีเครื่องเล่นและมุมถ่ายรูปเอาใจแฟน ๆ ตัวละคร รวมถึงโรงแรมเลโก้แลนด์ที่ตกแต่งด้วยธีมเลโก้ทั้งหลัง สำหรับคนรักการต่อเลโก้ การได้เห็นโมเดลแลนด์มาร์คดังของจีนที่สร้างจากตัวต่อหลายล้านชิ้นก็ตื่นตาตื่นใจมาก (เช่น กำแพงเมืองจีนหรือพระราชวังต้องห้ามจำลอง) เลโก้แลนด์เซี่ยงไฮ้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่มาแรงปี 2025 ที่จะมอบประสบการณ์สนุกสนานและความทรงจำดี ๆ ให้ทุกวัยค่ะ

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานี Shanghai Hongqiao หรือ Shanghai South มาลงสถานี Jinshan North (~18 นาที) ซึ่งอยู่ห่างสวนสนุกไม่ถึง 1 กม. จากนั้นสามารถเดินประมาณ 10 นาทีหรือขึ้นรถชัทเทิลบัสฟรีของเลโก้แลนด์เข้าสู่รีสอร์ตได้โดยตรง (อีกทางเลือกคือขึ้นรถบัสสาย Zhujing Line 5, Fengjing Line 7 หรือสาย 1675 จากตัวเมือง มาลงหน้ารีสอร์ตได้เช่นกัน )

  • ที่ตั้ง: Fengjing Town, Jinshan District, Shanghai, China (อยู่ชานเมืองเซี่ยงไฮ้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้)

  • ค่าเข้าชม: บัตร 1 วัน ผู้ใหญ่ประมาณ ¥319 หยวน / เด็ก (ต่ำกว่า 14 ปี) ¥255 หยวน (แนะนำจองออนไลน์ล่วงหน้า)

  • พิกัด: 30.8831° N, 121.0708° E

 

 

 

 

13. สวนสัตว์เซี่ยงไฮ้ไวลด์แอนนิมอล พาร์ค (Shanghai Wild Animal Park)

Foreverhappy/shutterstock.com

YAO DEKANG/shutterstock.com

YAO DEKANG/shutterstock.com

สวนสัตว์เซี่ยงไฮ้ไวลด์แอนนิมอล พาร์ค (Shanghai Wild Animal Park) เป็นสวนสัตว์เปิด และเป็นอุทยานสัตว์ป่าระดับชาติแห่งแรกของประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 ภายในครอบคลุมพื้นที่กว่า 378 เอเคอร์ สวนสัตว์แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักธรรมชาติ ซึ่งจะได้สัมผัสกับสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลกในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็นสองโซนหลัก ได้แก่ โซนสำหรับการเดินเท้าและโซนสำหรับการขับรถชม ในแต่ละโซนจะมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน โดยโซนเดินเท้าจะมีเส้นทางเดินให้ชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด เช่น แพนด้ายักษ์ และสัตว์หายากอื่นๆ เช่น แรดขาว ม้าลาย ยีราฟ และลิงอุรังอุตัง ก็สามารถพบได้ในโซนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการแสดงของสัตว์แสนรู้ เช่น การแสดงโลมา และการแสดงช้าง ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนโซนขับรถชม นักท่องเที่ยวสามารถขับรถส่วนตัวหรือใช้บริการรถบัสของสวนสัตว์เพื่อชมสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ สัตว์ที่พบได้ในโซนนี้ก็อย่างเช่น สิงโต เสือ เสือดาว หมี และสัตว์นักล่าอื่นๆ ที่จะเดินเล่นและใช้ชีวิตอย่างอิสระในพื้นที่กว้างใหญ่

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 16 มาลงที่สถานี Wild Animal Parkหรือ ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 มาลงที่สถานี Zhangjiang High Technology Park ออกทางออกที่ 5 แล้วเดินไปที่ป้ายรถประจำทางสาย Zhangnan ขึ้นรถบัสมาลงที่ Wild Animal Park

– ที่ตั้ง 178, Nanliu Road, Pudong New Area, Shanghai, China

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/dAHmyBr16eZ6Ztjr5

 

 

 

 

14. ซินเทียนตี้ (Xintiandi)

cyo bo/shutterstock.com

CHO MINJUN/shutterstock.com

4045/shutterstock.com

ซินเทียนตี้ (Xintiandi) แหล่งช้อปปิ้งที่นักช้อปไม่ควรพลาด ที่นี่ยังเป็นย่านที่รวมเอาความเก่าและความทันสมัยมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เมื่อก่อนบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมของชาวเซี่ยงไฮ้ ที่บ้านเรือนจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบ “Shikumen” หรือก็คือ East Meet West ที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างจีนและตะวันตก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ต่อมาได้มีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 จนที่นี่กลายเป็นย่านที่ทันสมัยและมีชีวิตชีวา โดยบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ อาคารส่วนใหญ่ยังคงมีสภาพแบบดั้งเดิม แต่ภายในถูกปรับปรุงให้มีความทันสมัยเหมาะกับยุคปัจจุบัน ซินเทียนตี้เป็นสถานที่ที่เหมาะทั้ง การเดินเล่น ช้อปปิ้ง และลิ้มลองอาหารนานาชาติที่หลากหลาย ที่นี่มีร้านอาหารมากมายที่พร้อมเสิร์ฟอาหารตั้งแต่จีนดั้งเดิมจนถึงอาหารตะวันตก รวมทั้งยังมีแกลเลอรี่งานศิลปะและพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกออกแบบให้เป็นย่านที่คนสามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการปิดถนนบางส่วนไม่ให้รถยนต์เข้า ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในเซี่ยงไฮ้ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งในและต่างประเทศ

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 10 มาลงที่สถานี Xintiandi Station ออกทางออกที่ 6

– ที่ตั้ง Huangpu, Shanghai, China, 200021

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/gzVErFkRujU3CkCm7

 

 

 

 

15. ย่านศิลปะ M50 (M50 Creative Park)

สำหรับสายฮิปและคนรักศิลปะร่วมสมัย ต้องไม่พลาดไปเช็กอินที่ ย่านศิลปะ M50 (M50 Creative Park) แห่งนี้ค่ะ M50 คือเขตคลังสินค้าและโรงงานสิ่งทอเก่าบนถนน Moganshan ที่ถูกรีโนเวทให้กลายเป็น แหล่งรวมสตูดิโอศิลปินและแกลเลอรี่มากกว่า 100 แห่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น SoHo แห่งเซี่ยงไฮ้ และติดอันดับ 1 ใน 10 สิ่งที่ต้องทำในเซี่ยงไฮ้ จากนิตยสาร Time ด้วยนะ ใครชอบเดินชมงานศิลป์หรือถ่ายรูปกับกำแพงกราฟฟิตี้สวย ๆ จะต้องตกหลุมรักที่นี่ เพราะทั่วบริเวณเต็มไปด้วยงานศิลปะตั้งแต่สตรีทอาร์ตบนกำแพงตึก คาเฟ่เก๋ ๆ ไปจนถึงแกลเลอรี่ที่จัดแสดงผลงานของทั้งศิลปินจีนและต่างชาติ บรรยากาศคึกคักด้วยคนรุ่นใหม่และศิลปินที่มาเดินเล่น พูดคุย และสร้างผลงานกันสด ๆ

การมาเดินเล่นที่ M50 นอกจากจะได้รูปถ่ายชิค ๆ กลับไปเพียบแล้ว ยังได้เห็นมุมทันสมัยของเซี่ยงไฮ้ที่ต่างจากภาพตึกระฟ้าอย่างสิ้นเชิง หากเดินชมจนเหนื่อยก็มีคาเฟ่และร้านขนมน่ารัก ๆ หลายร้านให้แวะพักจิบกาแฟชิล ๆ แนะนำเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงในการเดินเล่นย่านนี้ เพื่อให้ซึมซับงานศิลป์และค้นหาร้านลับต่าง ๆ ได้ทั่วถึงค่ะ

  • การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 13 ลงสถานี Jiangning Road ออกทางออก 4 เดินต่อไปตามถนน Moganshan ประมาณ 10 นาที (ผ่านโครงการตึกต้นไม้ Tian An 1000 Trees ด้วย)

  • ที่ตั้ง: 50 Moganshan Road, Putuo District, Shanghai, China

  • พิกัด: 31.2475° N, 121.4486° E

 

 

 

 

16. พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Museum)

ThewayIsee/shutterstock.com

Danny Ye/shutterstock.com

Danny Ye/shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Museum) ตั้งอยู่ในจัตุรัสประชาชน ( People’s Square) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองเซี่ยงไฮ้ อาคารของพิพิธภัณฑ์ออกแบบโดยสถาปนิกในท้องถิ่นนามว่า ซิง ทงเหอ (Xing Tonghe) มีลักษณะเป็นทรงหม้อประกอบอาหารในยุคโบราณที่ในภาษาจีนเรียกว่า “ติ่ง” ว่ากันว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก ต่าเค่อติ่ง ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ส่วนด้านบนของอาคารจะเป็นรูปทรงกลม และฐานของอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นรูปแบบตามคติจีนโบราณที่มีความเชื่อว่า “ฟ้ากลม โลกเหลี่ยม” ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงวัตถุโบราณมากกว่า 120,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงราชวงศ์ชิง จัดแสดงอยู่ในห้องจัดแสดงทั้งหมด 11 ห้อง โดยแต่ละห้องจะมีวัตถุโบราณประเภทต่างๆ แตกต่างกัน อาทิ ห้องจัดแสดงเครื่องสำริดโบราณ, ห้องจัดแสดงเซรามิกโบราณ และ ห้องจัดแสดงภาพวาดและลายอักษรจีน เป็นต้น รวมทั้งยังมีการจัดแสดงพิเศษและนิทรรศการหมุนเวียน นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมี ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และศิลปะของจีน มีบริการนำชมพร้อมไกด์และเครื่องเสียงบรรยายหลายภาษา เพื่อช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเข้าใจและเข้าถึงเนื้อหาของการจัดแสดงได้โดยง่าย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 1, สาย 2 หรือสาย 8 มาลงที่สถานี People’s Square ออกจากสถานีที่ทางออก 1 แล้วเดินไปทางทิศใต้อีกประมาณ 5 นาที

– ที่ตั้ง 201 Renmin Ave, People’s Square, Huangpu, Shanghai, China 200003

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/WN7KPKLCYZrTkdb26

 

 

 

 

17. เทียนจื่อฝาง (Tianzifang)

เทียนจื่อฝาง (Tianzifang) คืออีกหนึ่งย่านตรอกซอกซอยเก่าแก่ที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตสำหรับสายอาร์ตและสายช้อปในเซี่ยงไฮ้ ย่านนี้ตั้งอยู่ในอดีตเขตสัมปทานฝรั่งเศส บริเวณถนน Taikang ซึ่งประกอบด้วยตรอกเล็กตรอกน้อยที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารบ้านเรือน สไตล์ชิคูเหมิน (บ้านหินประตูโค้งแบบดั้งเดิมของเซี่ยงไฮ้) ที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้มีชีวิตชีวา Tianzifang เปรียบเสมือนฐานปฏิบัติการของเหล่าศิลปินและนักสร้างสรรค์ เพราะทั่วทั้งย่านเต็มไปด้วยร้านงานฝีมือ แกลเลอรีศิลปะ สตูดิโอออกแบบ ตลอดจนร้านขายของกระจุกกระจิกน่ารักไม่ซ้ำใคร เช่น ร้านแว่นตาวินเทจ ร้านกล่องดนตรีโบราณ ไปจนถึงแฟชั่นดีไซเนอร์ท้องถิ่น สำหรับสายกิน เทียนจื่อฝางก็มีร้านอาหารครีเอทีฟและคาเฟ่เก๋ ๆ ซ่อนตัวอยู่หลายแห่ง ให้คุณได้ลองชิมของอร่อยและถ่ายรูปมุมชิคไปพร้อมกัน

เสน่ห์อีกอย่างของการเดินเล่นในตรอกเทียนจื่อฝาง คือการได้ชมบรรยากาศบ้านเรือนเก่าในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หลังคากระเบื้องเก่า ประตูไม้โบราณที่มีมอสเขียวเกาะ และการใช้ชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านในตรอกที่ยังคงอยู่ผสมกลมกลืนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางมุมคุณอาจเจอศิลปินนั่งวาดรูปเหมือนขาย หรือเจอร้านงานฝีมือแฮนด์เมดที่ขายของที่ระลึกไม่เหมือนใคร ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนในเซี่ยงไฮ้

  • การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานี Dapuqiao ออกทางออก 1 เดินเข้าถนน Taikang ไม่กี่ก้าวก็จะเจอป้ายทางเข้าตรอกเทียนจื่อฝาง

  • ที่ตั้ง: Lane 210, Taikang Road, Huangpu District, Shanghai, China

  • พิกัด: 31.2078° N, 121.4682° E

 

 

 

 

18. เมืองโบราณฉีเป่า (Qibao Ancient Town)

Gaid Kornsilapa/shutterstock.com

Gaid Kornsilapa/shutterstock.com

cyo bo/shutterstock.com

เมืองโบราณฉีเป่า (Qibao Ancient Town) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจและต้องการสัมผัสวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม สำหรับชื่อ “Qibao” มาจากภาษาจีนที่แปลว่า “เจ็ดสมบัติ” ซึ่งมีตำนานกล่าวขานว่าพื้นที่นี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดที่เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าทั้งเจ็ดไว้ แม้ว่าในปัจจุบันวัดและสมบัติเหล่านั้นจะไม่มีอยู่แล้ว แต่เมืองแห่งนี้ก็ยังคงความงดงามและบรรยากาศของเมืองโบราณเอาไว้ได้อย่างดี เมืองโบราณฉีเป่าสร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ซ่ง มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเป็นอย่างมากในยุคนั้น ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนต่างๆ ยังคงมีรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอาคารที่สร้างจากไม้และสะพานหินข้ามคลองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง การเยี่ยมชมเมืองโบราณฉีเป่าจะทำให้เราได้สัมผัสกับความงดงามของวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์จีนผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ถนนโบราณฉีเป่า ถนนสายหลักของเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยร้านค้าขาย ร้านของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายขนมจีนดั้งเดิม และ วัดฉีเป่า วัดโบราณที่เป็นศูนย์กลางของศรัทธาและวัฒนธรรม วัดแห่งนี้มีอายุกว่า 1,000 ปี และยังคงเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านมักเดินทางมาเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสวดมนต์อยู่เสมอ

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 9 ลงที่สถานี Qibao ออกทางออกที่ 2 และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที ก็จะถึงเมืองโบราณฉีเป่า

– ที่ตั้ง Qibao, Minhang District, Shanghai, China

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/jaNNHT1SyskfQQaj8

 

 

 

 

19. เซี่ยงไฮ้ เซอร์คัส เวิลด์ (Shanghai Circus World)

posztos/shutterstock.com

Yingna Cai/shutterstock.com

CHEN WS/shutterstock.com

เซี่ยงไฮ้ เซอร์คัส เวิลด์ (Shanghai Circus World) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจในเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการแสดงกายกรรมที่ใหญ่ที่สุดในจีน แต่ยังเป็นที่ตั้งของการแสดง “ERA – Intersection of Time” ซึ่งเป็นการแสดงกายกรรมที่ได้รับความนิยมและยกย่องในระดับนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ เซอร์คัส เวิลด์ เปิดทำการในปี 1999 โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางของศิลปะการแสดงกายกรรมในจีน ภายในครอบคลุมพื้นที่กว่า 22,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย โรงละครที่มีความจุถึง 1,638 ที่นั่ง และเวทีการแสดงที่ทันสมัย ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันสำหรับการแสดงที่หลากหลาย ในส่วนของการแสดงที่น่าสนใจนอกจาก ERA แล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงกายกรรมแบบจีนดั้งเดิม เช่น การโยนหมอน การเดินบนเส้นลวด และการแสดงอาวุธ, การแสดงสำหรับเด็ก การแสดงที่ออกแบบมาเพื่อเด็กๆ โดยเฉพาะ ซึ่งเต็มไปด้วยความสนุกสนานและการเรียนรู้ เช่น การแสดงละครสัตว์และการแสดงเชิดหุ่น นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลและกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย ที่จัดในช่วงเวลาต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น เทศกาลกายกรรมแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมการแสดงกายกรรมจากทั่วประเทศมาแสดงที่เซี่ยงไฮ้ เซอร์คัส เวิลด์

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 1 ไปลงที่สถานี Shanghai Circus World

– ที่ตั้ง 2266 Gonghexin Rd, Zhabei Qu, Shanghai, China 200072

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/pQffJ7rSb6LN4vFX6

 

 

 

 

20. อาคารพันต้นไม้ (Tian An 1000 Trees)

Mister_Knight/shutterstock.com

Mister_Knight/shutterstock.com

pim pic/shutterstock.com

อาคารพันต้นไม้ (Tian An 1000 Trees) สวนแนวตั้ง ที่ได้รับการออกแบบโดย Thomas Heatherwick สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างสรรค์อาคาร โดยการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรมเมืองได้อย่างลงตัว Tian An 1000 Trees มีชื่อเรียกตามลักษณะเด่นของโครงการที่ประกอบไปด้วยต้นไม้กว่า 1,000 ต้น โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก เขาหวงซาน ในมณฑลอันฮุย และสวนหินของจีน ซึ่งเน้นการรวมเอาธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเมือง ตัวอาคารมีลักษณะเป็นตึกแฝดสูงที่แบ่งออกเป็นสองส่วน โดยแต่ละส่วนจะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ ที่ปลูกในกระถางขนาดใหญ่ กระถางเหล่านี้ตั้งอยู่บนเสารูปทรงกรวยที่สามารถรองรับน้ำหนักของพืชพรรณได้เป็นอย่างดี และยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างอาคาร ลักษณะการจัดวางนี้ทำให้ตัวอาคารดูเหมือนเป็นภูเขาหรือสวนหินที่ถูกสร้างขึ้นจากธรรมชาติ และนอกจากต้นไม้แล้วที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สาธารณะที่หลากหลาย โดยประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และแกลเลอรีศิลปะ นอกจากนี้สวนแนวตั้งและพื้นที่สีเขียวแห่งนี้ยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้อีกด้วย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 13 มาลงที่สถานี Jiangning Road ออกทางออกที่ 1 แล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปอีกประมาณ 5 นาที

– ที่ตั้ง 600 Moganshan Road, Putuo District, Shanghai, China 200072

– พิกัด https://goo.gl/maps/nAAD8X8KctYQv6Vm8

 

 

 

 

21. ถนนอู่คัง (Wukang Road)

Wikipedia

Wikipedia

ถนนอู่คังเป็นถนนประวัติศาสตร์ย่านอดีตเขตสัมปทานฝรั่งเศส ความยาวประมาณ 1.2 กิโลเมตร สองฝั่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ Plane Tree และเรียงรายด้วยอาคารสไตล์ยุโรปยุคต้นศตวรรษที่ 20 หลายแห่ง เคยเป็นที่พักอาศัยของเหล่าคนดังในอดีต ไฮไลท์อยู่ที่หัวมุมถนนคืออาคาร Wukang Mansion หรือ Normandie Apartments ทรงตึกหัวเรือสุดคลาสสิก สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1927 และเป็นอาคารระเบียงสไตล์ฝรั่งเศสแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันถนนเส้นนี้คึกคักด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และบูติกเก๋ๆ มากมาย บรรยากาศย้อนยุคเหมาะแก่การเดินเล่นถ่ายรูปฟีลยุโรปสุดๆ

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 10 หรือ 11 ลงสถานี Jiaotong University (ทางออก 7) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาทีถึงถนนอู่คัง (ตึก Wukang Mansion อยู่บริเวณหัวมุมถนนอู่คังตัดกับถนน Huaihai Middle)

  • เวลาเปิด-ปิด: ถนนสาธารณะ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน (ร้านค้าและคาเฟ่ส่วนมากเปิดช่วงสายถึงค่ำ)

  • ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินชมถนน (เป็นพื้นที่สาธารณะ)

 

 

 

 

22. สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ โรสเทอรี่ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Starbucks Reserve Roastery)

สาขานี้เป็นสตาร์บัคส์รีเสิร์ฟโรสเทอรี่แห่งแรกในเอเชีย และเคยเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเปิดตัวปี 2017 โดดเด่นด้วยบรรยากาศโรงคั่วกาแฟสุดอลังการกลางนครเซี่ยงไฮ้ ภายในมีเครื่องคั่วกาแฟทองแดงขนาดยักษ์ตั้งตระหง่าน เชื่อมต่อท่อส่งเมล็ดกาแฟที่พาดไปทั่วเพดานร้าน นอกจากนี้ยังแบ่งโซนเป็นบาร์ชิมกาแฟหลายสไตล์ มีเบเกอรี่สดใหม่ (แบรนด์ Princi) ส่งกลิ่นหอมอบอวล และมุมจำหน่ายเมล็ดกาแฟหายากและสินค้าที่ระลึกเฉพาะสาขาให้เลือกซื้อมากมาย ถือเป็นจุดเช็กอินที่คอกาแฟไม่ควรพลาด เพราะได้ทั้งชิมกาแฟสูตรพิเศษ ช้อปของที่ระลึก และถ่ายรูปกับบรรยากาศโรงคั่วสุดไม่เหมือนใคร

  • การเดินทาง: ตั้งอยู่ที่โครงการ HKRI Taikoo Hui ถ.หนานจิงตะวันตก (เลขที่ 789 West Nanjing Road) เดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสาย 2, 12 หรือ 13 ลงสถานี West Nanjing Road แล้วเดินประมาณ 5 นาทีถึงร้าน (อยู่ใกล้แยกถนน Shimen Yi และหนานจิงตะวันตก)

  • เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 08:00-23:00 (โดยประมาณ); คืนวันศุกร์-เสาร์อาจเปิดดึกถึงประมาณ 24:00

  • ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี (เป็นร้านกาแฟไม่มีค่าเข้า แต่มีค่าอาหารเครื่องดื่มตามเมนู)

 

 

 

23 สวน North Bund Green Land (北外滩滨江绿地)

สวนริมน้ำบรรยากาศชิลฝั่ง North Bund (เขต Hongkou) จุดเด็ดสำหรับชมสกายไลน์ฝั่ง Lujiazui แบบเต็มตาโดยคนไม่แน่นเท่า The Bund ทางเดินเลียบแม่น้ำกว้าง เหมาะเดินเล่น–วิ่ง–ปั่นชิล ช่วงเย็นแสงไฟเมืองเปิดคือไฮไลต์สุดโรแมนติก มีลานหญ้าให้นั่งปิกนิกและทางเดิน “สีรุ้ง” ถ่ายรูปสนุก ใกล้ท่าเรือครูซและสะพานประวัติศาสตร์ Waibaidu Bridge เดินต่อเชื่อมแลนด์มาร์กสำคัญได้ง่าย

  • การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน สาย 12 → สถานี International Cruise Terminal (ทางออก 3) เดิน ~8–10 นาทีถึงริมน้ำ ฝั่งพิกัดหลักอยู่บน ถนน Dongdaming Rd. แถวเลขที่ 358–800 (โซนสวนยาวตลอดริมน้ำ)

  • เวลาเปิด–ปิด: โดยทั่วไป 06:00–22:00 น. (พื้นที่สาธารณะกลางแจ้ง บางช่วงเทศกาลอาจขยาย/ปรับตามประกาศหน้างาน)

  • ค่าเข้าชม: ฟรี

 

 

 

24. Shanghai Haichang Ocean Park

สวนสนุก–พิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ริม Dishui Lake ย่าน Lingang (ผู่ตง) แบ่งเป็นหลายโซนทั้งอาร์กติก–แอนตาร์กติก อุโมงค์สัตว์น้ำ โชว์โลมา–สิงโตทะเล เครื่องเล่นธีมทะเล และมีโรงแรมธีมภายใน ทำให้เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการใช้เวลาทั้งวันแบบครบวงจร (มีโชว์และตารางเครื่องเล่นเป็นรอบ ๆ)

การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน สาย 16 ลง Lingang Avenue ออกทางออก 3 แล้วต่อ รถเมล์ 1135 ประมาณ 3 ป้าย ลง Yinfei Rd Transport Hub (Ocean Park) เดินข้ามสะพานลอยถึงทางเข้า (มีรสบัสเชื่อม/ชัตเทิลตามช่วงเวลา)

เวลาเปิด–ปิด: โดยทั่วไป 09:30–17:30 (ปิดรับเข้าก่อน 16:30; อาจขยายเวลาในวันหยุด/ฤดูท่องเที่ยว—แนะนำเช็ควันจริงอีกครั้งก่อนไป)

ค่าเข้าชม: บัตรผู้ใหญ่ปกติราว ¥299–¥320 (มีโปรโมชั่น/แพ็กเกจตามช่วงเวลาและช่องทางจำหน่าย เช่น แอปอย่างเป็นทางการ/พาร์ตเนอร์) — ราคาจริงอาจเปลี่ยนตามช่วงฤดูกาล แนะนำเช็คหน้า “Tickets/门票” ของทางการก่อนชำระเงิน

 

 

 

25. วัดหลงหัว (Longhua Temple)

wikipedia.org

wikipedia.org

วัดหลงหัวเป็นวัดพุทธเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ มีประวัติยาวนานเกือบ 1,800 ปี สร้างมาตั้งแต่สมัยสามก๊ก (ประมาณปี ค.ศ.242) ผ่านการบูรณะหลายครั้ง ปัจจุบันยังคงรักษาผังวัดตามศิลปะจีนโบราณไว้อย่างครบถ้วน ภายในวัดประกอบด้วยวิหารเรียงตามแกนกลาง 6 หลัง ได้แก่ วิหารพระไมเตรยะ วิหารท้าวจตุโลกบาล วิหารพระใหญ่ (Mahavira Hall) วิหารสาม圣 (พระสามโพธิสัตว์) กุฏิสงฆ์ และหอพระไตรปิฎก แต่ละวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปและเทพเจ้าองค์สำคัญให้สักการะ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์หลงหัวทรงแปดเหลี่ยมสูง 7 ชั้นอยู่ด้านหน้าวัด ซึ่งเป็นเจดีย์ไม้-อิฐสมัยราชวงศ์ซ่งที่แม้ไม่เปิดให้เข้าภายในแต่ก็โดดเด่นสะดุดตาเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ ด้วยบรรยากาศสงบขลังและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัดหลงหัวจึงเป็นสถานที่ที่ผู้สนใจพุทธศิลป์จีนโบราณไม่ควรพลาดมาเยือน

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 11 หรือ 12 ลงสถานี Longhua (ทางออก 2) จากนั้นเดินเลียบถนนหลงหัวประมาณ 5-10 นาทีถึงประตูวัด หรือขึ้นรถประจำทางสาย 41, 44, 166 ฯลฯ มาลงที่ป้าย Longhua Temple

  • เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 07:10-16:30 น. (วันที่ 1 และ 15 ตามปฏิทินจันทรคติจีน เปิดตี 5)

  • ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมคนละ 10 หยวน (เด็กสูงต่ำกว่า 1.3 เมตรเข้าฟรี)

 

 

 

 

26. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Ocean Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ติดกับหอไข่มุก (Oriental Pearl Tower) ฝั่งผู่ตง ภายในแบ่งเป็นโซนจัดแสดงตามถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำจากหลายภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาใต้ โซนน้ำเย็น โซนขั้วโลก โซนชายฝั่งทะเล และโซนมหาสมุทรลึก รวมสิ่งมีชีวิตน้ำกว่า 300 สายพันธุ์ และสัตว์น้ำมากกว่า 15,000 ตัว ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคืออุโมงค์ใต้น้ำความยาวถึง 155 เมตร ซึ่งยาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ภายในมีทางเลื่อนให้ยืนชมฝูงปลาฉลาม กระเบน เต่าทะเล และสัตว์ทะเลอื่นๆ ว่ายรอบตัวเรา 360 องศา ราวกับดำดิ่งอยู่ใต้มหาสมุทรจริงๆ นอกจากนี้ยังมีเพนกวินจักรพรรดิ ปลาฉลามโบราณอย่างปลาโรนิน ปลามังกรโคมไฟ และสัตว์หายากอื่นๆ จัดแสดงตามช่วงเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชมการให้อาหารตามรอบเวลาอีกด้วย

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ไปลงสถานี Lujiazui (ออกทางออก 1) แล้วเดินไม่เกิน 5 นาทีจะเห็นตึกพิพิธภัณฑ์อยู่ถัดจากหอไข่มุกตะวันออก

  • เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 09:00-18:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายก่อน 17:30) ช่วงเทศกาลและฤดูร้อน (ก.ค.-ส.ค.) ขยายเวลาเปิดถึง 21:00 น.

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 160 หยวน, เด็กสูง 1.0-1.4 เมตร 110 หยวน, ต่ำกว่า 1.0 เมตรเข้าฟรี (มีบัตรชุดราคาพิเศษรวมที่เที่ยวอื่น เช่น หอไข่มุกหรือชั้น 88 ตึกจินเหมา)

 

 

 

 

27. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Natural History Museum)

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเซี่ยงไฮ้ตั้งอยู่ในสวนประติมากรรมจิ้งอัน (Jing’an Sculpture Park) ใจกลางเมือง อาคารพิพิธภัณฑ์โดดเด่นด้วยดีไซน์ทรงก้นหอยสีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเกลียวของเปลือกหอยนอติลุส สื่อถึงความต่อเนื่องทางธรรมชาติและชีวิต พื้นที่ภายในกว้างขวางถึง 45,000 ตารางเมตร แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 6 ชั้น (เหนือดิน 2 ชั้น ใต้ดิน 4 ชั้น) จัดนิทรรศการถาวร 10 หัวข้อ ครอบคลุมตั้งแต่กำเนิดจักรวาล วิวัฒนาการของสรรพชีวิต ไปจนถึงความหลากหลายทางธรรมชาติและอารยะธรรมมนุษย์ มีไฮไลท์คือโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ หุ่นจำลองสัตว์แอฟริกาขนาดเท่าของจริง และฟอสซิลหายากมากมาย รวมจำนวนชิ้นจัดแสดงกว่า 280,000 ชิ้น เช่น ตัวอย่างพืชกว่า 150,000 ชิ้น แมลงกว่า 33,000 ชิ้น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 4,000 ชิ้น ฯลฯ มีโรงภาพยนตร์ 4D และศูนย์ค้นคว้าให้ความรู้ เหมาะสำหรับพาเด็กๆ มาเปิดประสบการณ์โลกธรรมชาติผ่านสื่อทันสมัยและการจัดแสดงน่าตื่นตาตื่นใจ ตัวอาคารยังแวดล้อมด้วยสวนสวยและบ่อน้ำ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายกลมกลืนกับธรรมชาติ เป็นอีกจุดถ่ายรูปยอดนิยมของสายอาร์ตและคนรักสถาปัตยกรรมไปพร้อมกัน

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 13 ลงสถานี Shanghai Natural History Museum (ทางออก 1) แล้วเดินเพียง 2 นาทีถึงประตูพิพิธภัณฑ์ (หรือเดิน ~10 นาทีจากสถานี West Nanjing Road สาย 2)

  • เวลาเปิด-ปิด: อังคาร–อาทิตย์ 09:00-17:15 น. (หยุดวันจันทร์ ยกเว้นตรงวันหยุดนักขัตฤกษ์) เข้าชมรอบสุดท้ายก่อน 16:30 น.

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 30 หยวน; เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีสูงเกิน 1.3 ม. 12 หยวน, เด็กความสูงไม่เกิน 1.3 ม. เข้าฟรี (ต้องจองบัตรเข้าล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ หรือ Walk-in ถ้ามีที่ว่าง)

 

 

 

 

28. เมืองโบราณเฟิงจิง (Fengjing Ancient Town)

 

Pexel

Wikipedia.org

เมืองโบราณเฟิงจิงเป็นเมืองน้ำโบราณอายุกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองจินซาน (ห่างจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ ~57 กม.) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “สี่เมืองโบราณชื่อดังแห่งเจียงหนาน” ที่ยังคงรักษากลิ่นอายดั้งเดิมไว้อย่างดี พื้นที่เมืองประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร มีลำคลองสายหลักแบ่งกลางเมือง สมัยก่อนเคยเป็นเขตกั้นระหว่างมณฑลเจียงซูกับเจ้อเจียง ทำให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมผสมผสานสองมณฑลมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1430 สถาปัตยกรรมบ้านเรือนเป็นแบบราชวงศ์หมิง-ชิง ตัวอาคารส่วนใหญ่สูง 2 ชั้น ผนังฉาบปูนสีขาวหลังคากระเบื้องดำ มีลานกลางบ้านและทางเดินริมน้ำ ทุกวันนี้ตามตรอกหลัก 4 สายของเมืองยังคงมีเรือนโบราณรวมกันกว่า 48,000 ตร.ม. โดยมี 9 แห่งที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของเซี่ยงไฮ้ เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์สะพานโบราณแห่งเจียงหนาน” เพราะมีสะพานข้ามคลองถึง 52 แห่ง บางแห่งเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (เช่น สะพานจื่อเหอ อายุ 700 ปี) นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมวิถีชีวิตเรียบง่าย ชมร้านค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน ฟังการแสดงงิ้วท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารขึ้นชื่ออย่างขาหมูพะโล้เฟิงจิง เหล้าเหลืองเค็ม ขนมเค้กจ้วงหยวน และเต้าหู้แห้ง ที่เรียกรวมกันว่า “4 สุดยอดแห่งเฟิงจิง” ถือเป็นเมืองน้ำที่เงียบสงบไม่พลุกพล่านเท่าน้ำโบราณชื่อดังแห่งอื่น เหมาะกับการมาเดินทอดน่องหรือนั่งเรือชมบรรยากาศย้อนยุคอย่างแท้จริง

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ไปสุดสายที่สถานี Jinjiang Park (Jinjiang Leyuan) จากนั้นเดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Bus Station) นั่งสาย Fengmei Line ไปลงที่ทางเข้าเมืองเฟิงจิง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที (มีรถบัสท่องเที่ยวตรงจากศูนย์ทัวร์ฝูโจว (ใกล้ People’s Square) ไปเฟิงจิงวันละรอบ สอบถามตารางเวลาเพิ่มเติมได้)

  • เวลาเปิด-ปิด: เดือนพ.ค.–ก.ย. เปิด 08:00-17:00 น.; เดือนต.ค.–เม.ย. เปิด 08:00-16:30 น.

  • ค่าเข้าชม: เข้าฟรีไม่มีตั๋วผ่านประตู แต่หากต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่สำคัญในเมืองสามารถซื้อบัตรเหมารวมราคา 50 หยวน (เข้าชมสถานที่ได้ 8 แห่ง) เด็กความสูง 1.3–1.5 ม. ครึ่งราคา และต่ำกว่า 1.3 ม. เข้าฟรี (ค่าล่องเรือชมคลองประมาณ 80 หยวน/ลำ นั่งได้ 6 คน)

 

 

 

 

29. สวนพฤกษศาสตร์เซี่ยงไฮ้เฉินซาน (Shanghai Chenshan Botanical Garden)

Flikr.com CC2.0

Flikr.com CC2.0

สวนพฤกษศาสตร์เฉินซานตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเฉิน (เฉินซาน) เขตซงเจียงชานเมืองเซี่ยงไฮ้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 207 เฮกตาร์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ โดยเน้นทั้งด้านการวิจัย การศึกษา และการพักผ่อนหย่อนใจไปพร้อมกัน ภายในสวนแบ่งเป็นโซนธีมต่างๆ ถึง 26 สวนย่อย มีพรรณไม้จัดแสดงกว่า 9,000 ชนิด โดยเฉพาะพืชพื้นถิ่นจีนตะวันออกกว่า 1,500 สายพันธุ์ที่หาชมยาก รวมถึงสวนหินและสวนสมุนไพรบนเนินเขาจำลอง สวนดอกไม้ตามฤดูกาล และเขตพืชพันธุ์ภูมิภาคอเมริกาเหนือที่จัดแต่งในรูปแบบสวนตะวันตก ให้บรรยากาศแปลกตาไปจากสวนจีนทั่วไป จุดไฮไลท์คือเรือนกระจกทรงโดมขนาดยักษ์ (Tropical Conservatory) ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายในแบ่งเป็นเขตร้อนชื้น เขตพืชหายาก และเขตทะเลทราย มีพรรณไม้มหัศจรรย์ให้ชม เช่น ต้นเบาบับยักษ์จากมาดากัสการ์ พืชกินแมลง เฟิร์นโบราณ และสวนกระบองเพชรขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสวนสำหรับเด็ก (Children’s Garden) ที่มีบ้านต้นไม้และเครื่องเล่นแทรกตามหมู่ไม้ ให้เด็กๆ ได้สนุกพร้อมเรียนรู้ธรรมชาติ และสวนพรรณไม้สำหรับผู้พิการทางสายตาที่คัดเลือกพืชหอมและมีผิวสัมผัสหลากหลายให้สามารถจับต้องได้ ถือเป็นสวนพฤกษศาสตร์ครบวงจรที่ทั้งครอบครัวสามารถใช้เวลาพักผ่อนเชิงเรียนรู้ได้ทั้งวัน

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 9 ไปลงสถานี Dongjing (ทางออก 3) จากนั้นต่อรถประจำทางสาย Songjiang 19 หรือ Songjiang 96 ไปลงป้ายหน้าสวน (Chenshan Botanical Garden) ซึ่งอยู่ใกล้กับประตู 1 (หรือจากเขต Songjiang ขึ้นสาย Songzhu Line ลงป้าย Shenzhuan Rd. แล้วเดินอีก ~700 ม. ก็ถึง)

  • เวลาเปิด-ปิด: เดือนมี.ค.–ต.ค. เปิด 08:00-17:30 น.; เดือนพ.ย.–ก.พ. 08:00-17:00 น. (ส่วนเรือนกระจกปิดเร็วกว่า 30 นาที)

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 60 หยวน; เด็กอายุ 6-18 ปี 30 หยวน; เด็กต่ำกว่า 6 ปีหรือไม่เกิน 1.3 ม. เข้าฟรี (มีบริการรถรางไฟฟ้าเที่ยวชมรอบสวน 10 หยวน และเรือไฟฟ้าให้เช่าในทะเลสาบ)

 

 

 

 

30. ท้องฟ้าจำลองเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Planetarium)

Wikipedia.com

ท้องฟ้าจำลองเซี่ยงไฮ้ หรือพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์เซี่ยงไฮ้ เป็นพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่อาคาร 38,000 ตร.ม. เปิดใหม่ในปี 2021 ที่เขตหลิงกั่ง ชานเมืองเซี่ยงไฮ้ ตัวอาคารโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทรงโค้งไร้มุมสะท้อนความเวิ้งว้างของจักรวาล โดยมีองค์ประกอบหลักคือโดมท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง ~30 ม.) ที่ยื่นลอยเหนือพื้นดิน เสมือนดวงจันทร์โคจรรอบโลก นอกจากนั้นภายในยังมีนิทรรศการหลักเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อวกาศ โซนกล้องโทรทรรศน์หอดูดาว หอดูดาวกลางแจ้งบนดาดฟ้า โรงภาพยนตร์ทรงโดมความละเอียดสูง และศูนย์การเรียนรู้ด้านอวกาศครบวงจร สำหรับการเข้าชมต้องจองบัตรล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ (แอป/Wechat ของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เซี่ยงไฮ้) เนื่องจากจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวันและบัตรมักเต็มเร็วมาก นักท่องเที่ยวควรวางแผนจองล่วงหน้าราว 3 วันก่อนเข้าชม

  • การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 16 ไปสุดสายที่สถานี Dishui Lake แล้วต่อแท็กซี่หรือรถรับส่งท้องถิ่นประมาณ 5 นาที (ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนเกาะฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ Dishui) หรือจะเดินเท้าประมาณ 20 นาทีก็ได้

  • เวลาเปิด-ปิด: อังคาร–อาทิตย์ 09:30-16:00 น. (เข้ารอบสุดท้ายก่อน 15:00) ปิดทำการทุกวันจันทร์

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 30 หยวน; เด็กความสูงต่ำกว่า 1.3 ม. เข้าฟรี (ไม่มีจำหน่ายบัตรหน้างาน ต้องจองออนไลน์พร้อมระบุหมายเลขบัตรประชาชน/พาสปอร์ตล่วงหน้า) (มีบริการจำหน่ายบัตรเข้าชมนิทรรศการพิเศษและท้องฟ้าจำลองเพิ่มเติมภายใน)

 

 

 

เที่ยวเซี่ยงไฮ้เมื่อไหร่ดี?

ช่วงที่อากาศดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงหน้าไฮของการท่องเที่ยว เนื่องจากอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และธรรมชาติงดงาม โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้เปลี่ยนสีเพิ่มความงดงามให้กับทิวทัศน์ของเมือง ส่วนช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศจะร้อนชื้นและมีฝนตกบ่อย ขณะที่ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวเย็น อาจมีฝนและลมหนาว ทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทางเที่ยวในบางสถานที่ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่ก็ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวของจีนที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากอยู่ดี

 

 

 

เที่ยวเซี่ยงไฮ้เควรใช้เวลากี่วัน?

สำหรับคนส่วนใหญ่ 3-4 วันในเซี่ยงไฮ้ก็พอที่จะเที่ยวที่หลัก ๆ อย่าง The Bund, Yu Garden, และ Zhujiajiao Water Town แต่ถ้าอยากเที่ยวแบบเจาะลึกมากขึ้น เช่น พิพิธภัณฑ์ ย่านศิลปะอย่าง French Concession หรือไปเที่ยวนอกเมืองใกล้ๆแบบไปเช้าเย็นกลับที่ Suzhou หรือ Hangzhou ก็ควรใช้เวลา 5-7 วัน แต่ถ้าอยากรวมทริปเซี่ยงไฮ้กับพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Zhejiang หรือ Jiangsu ก็แนะนำให้อยู่สัก 10-12 วัน

 

 

 

 


 

 

>>> แนะนำ ที่เที่ยว เซี่ยงไฮ้ สวย ฮิต ห้ามพลาด <<<

top-places-shanghai-china-2