เที่ยวเซี่ยงไฮ้ จีน ช่วงไหนดี? อุณภูมิและสภาพอากาศเซี่ยงไฮ้แต่ละฤดูเป็นยังไง มีอะไรห้ามพลาดบ้าง

Photo from https://www.flickr.com/photos/gunman47/49442455237

เซี่ยงไฮ้(Shanghai) เป็นเมือง 1 ใน 4 นครปกครองโดยตรงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากที่สุดของจีน ทุกพื้นที่ของเมืองเต็มไปด้วยตึก อาคาร ร้านค้า สิ่งก่อสร้าง บนถนนเต็มไปด้วยรถราและผู้คน เป็นเมืองที่มีความสำคัญด้านต่าง ๆ เช่น มีท่าเรือคับคั่งที่สุดในโลก เป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกของจีน และหลังจากมีการปฎิรูปทางเศรษฐกิจของจีน ส่งผลให้มีการพัฒนาเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศนำเงินมาลงทุนที่เซี่ยงไฮ้ จนตลาดหลักทรัพย์ของเซี่ยงไฮ้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

นอกจากทางเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคารแล้ว เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก มีตึกสไตล์ยุโรปที่งดงามไม่แพ้ต้นฉบับให้ชมแบบไม่ต้องบินไกล มีจุดชมวิวเก๋ ๆ มีแหล่งชอปปิง วัดเก่าแก่ ธรรมชาติ เมืองโบราณ สวนสนุกระดับโลก ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาที่เซี่ยงไฮ้ตลอดทั้งปี เพื่อท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง และไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ จีน ช่วงไหนดี? อุณภูมิและสภาพอากาศเซี่ยงไฮ้ แต่ละฤดูเป็นยังไง มีอะไรห้ามพลาดบ้าง

Shanghai Pudong Airport from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Departure_area_of_Shanghai_Pudong_International_Airport.jpg

จากประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางสู่เซี่ยงไฮ้ โดยสารการบินต่าง ๆ ประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที มีสายการบินที่บินตรงสู่เซี่ยงไฮ้ให้เลือกหลายสายการบิน เช่น แอร์เอเชีย เซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์ สปริงแอร์ไลน์ ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เป็นต้น

สำหรับฤดูกาลของเซี่ยงไฮ้นั้น มีด้วยกัน 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง โดยในแต่ละฤดูกาลจะมีรายละเอียด ๆ ดังนี้ 

• ฤดูหนาว อยู่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 1 – 11 องศาเซลเซียส จนถึงติดลบ โดยอากาศจะอุ่นขึ้นในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 
• ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงประมาณเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ของทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยของฤดูกาลนี้จะอยู่ประมาณ 6 – 20 องศาเซลเซียส อาจสูงกว่านี้ในช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม
• ฤดูร้อน อยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 – 32 องศาเซลเซียส อากาศในฤดูร้อนของเซี่ยงไฮ้นั้นมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย คือ ในช่วงเวลากลางวันและบริเวณกลางแจ้งอากาศร้อนจนถึงขั้นเหงื่อท่วมตัว อีกทั้งมีโอกาสฝนตกสูง  และมีพายุไต้ฝุ่นระหว่างปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน
• ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือน กันยายน – พฤศจิกายน อากาศของฤดูนี้คล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ ความร้อนและความชื้นจะลดลง อากาศดี แต่ก็ยังมีโอกาสเจอฝน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 20 องศาเซลเซียส

Photo from https://www.flickr.com/photos/37195641@N03/31046162266

ท่องเที่ยวในฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ถึงขั้นติดลบ และมีโอกาสหิมะตก แต่ไม่บ่อยนัก ฤดูนี้แม้จะเป็นช่วงต้นปี แต่ยังไม่ค่อยน่าท่องเที่ยว เพราะอากาศหนาวมาก ต้นไม้ใบหญ้าไม่มีสีสัน ไม่มีใบ แถมร้านค้ายังเปิดค่อนข้างน้อย เพราะตรงกับช่วงวันตรุษจีน ส่วนใครที่ต้องการสัมผัสความหนาวเย็น ให้มาในช่วงฤดูหนาว ได้หนาวสะใจแน่นอน และควรเตรียมเสื้อผ้า เครื่องป้องความหนาวมาให้เพียงพอ โดยเลือกประเภทเสื้อผ้าให้เข้าอากาศที่หนาวจัด เช่น สเวตเตอร์แบบหนาอย่างดี หรือแจคเก็ตไว้คลุมทับชุดด้านใน คู่กับกางเกงแบบกันลม พกหมวก ถุงมือ หน้ากากเพิ่มเข้าไปด้วยก็จะดีมาก เพราะถ้าอุณภูมิติดลบ ทั้งมือและใบหน้าอาจชาจนหมดความรู้สึกไปเลย

ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ เป็นอีกฤดูที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเมืองเซี่ยงไฮ้ เพราะช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนั้นเป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังบานสวย ท้องฟ้าปลอดโปร่งทุกวัน ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี แต่อาจมีฝนตกบ้างเล็กน้อย ในเดือนนี้จะมีงานเทศกาลเช็งเม้ง ประมาณวันที่ 5 เมษายน ซึ่งเป็นวันหยุดเพื่อไปไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว 

ท่องเที่ยวในฤดูร้อน อากาศในฤดูร้อนของเซี่ยงไฮ้นั้นมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย คือ ช่วงเวลากลางวันและบริเวณกลางแจ้งอากาศร้อน อีกทั้งมีโอกาสฝนตกสูง และตกหนักระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน รวมถึงมีพายุไต้ฝุ่นราว ๆ ปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งฤดูนี้มีวันหยุดสำคัญ คือ วันแรงงาน ตรงวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี และมีการจัดงานเทศกาลเรือมังกรในช่วงประมาณต้นเดือนมิถุนายน ใครที่ไม่กลัวร้อน เที่ยวฤดูนี้ได้เลย แต่ถ้าไปตรงกับวันหยุด ดังที่กล่าวมา ก็อย่าลืมเตรียมตัว เตรียมใจเจอกับคลื่นมหาชนของเจ้าของประเทศ ส่วนเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวก็เตรียมไม่ยาก หน้าร้อนประเทศไทยเป็นอย่างไร ที่เซี่ยงไฮ้ก็ไม่ต่างกัน ฉะนั้นเน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายความร้อน จะดีที่สุด

ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ช่วงนี้อากาศจะสบายๆ คล้ายกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีโอกาสเจอฝนตกบ้าง เพราะเป็นช่วงฝนเปลี่ยนฤดู เดือนนี้ถือเป็นการเริ่มต้น High season ของกรุงเซี่ยงไฮ้ ยิ่งช่วงปลายเดือนกันยายน ความร้อนและความชื้นจะลดลง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี มีความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ เป็นฤดูที่เหมาะกับการท่องเที่ยว เพราะงานเทศกาลสำคัญ ๆ ของเซี่ยงไฮ้ นิยมจัดขึ้นภายในฤดูนี้ 

โดยสรุปฤดูที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเซี่ยงไฮมากที่สุดก็คือฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน) และฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) เพื่อเลี่ยงความร้อนของฤดูร้อน และความหนาวจัดของฤดูหนาว ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิของเซี่ยงไฮ้นั้นจะมีงานเทศกาลเรียงกันเข้ามาเป็นลำดับ และแน่นอนว่างานเทศกาลต่าง ๆ ย่อมมีนักท่องเที่ยวล้นหลาม ราคาที่พัก อาหารการกิน อาจมีการอัพราคาขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นควรเลือกช่วงเวลาดี ๆ เพื่อให้ทริปเดินทางไม่สะดุด พร้อมความสุข และความประทับใจ 

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:DiSneyland_Shanghai.jpg

เซี่ยงไฮ้ ถือเป็นเมืองที่มีการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ทั้งงานเทศกาลที่มาจากวัฒนธรรมของจีน และงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมือง โดยมีเทศกาลที่น่าสนใจ ดังนี้

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ หรือ Shanghai International Film Festival จัดขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีการประกวด จัดฉายภาพยนตร์ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ โดยมีผู้ผลิตภาพยนต์จากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานนี้เป็นจำนวนมาก 

เทศกาลงานวัดเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Longhua Temple Fair) เป็นเทศกาลงานวัดที่จัดขึ้นทุกปี ในช่วงประมาณเดือนเมษายน บริเวณวัดหลงหัว ภายในงานมีการจัดงานแบบวิถีดั้งเดิม แต่มีความยิ่งใหญ่ด้วยการจัดแต่งสถานที่ไปตามถนนที่ทอดยาวจนถึงแม่น้ำ หรือที่เรียกว่า Temple Street มีกิจกรรมให้ทำ มีการแสดงต่าง ๆ ให้ชม ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

เทศกาลชมดอกท้อบานเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Peach Blossom Festival) จัดทุกปีในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ตามสถานที่สำคัญของเมือง เช่น สวนสาธารณะ สวนดอกไม้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามของดอกท้อ และร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน เช่น ชมการแสดงดนตรี เพลงจีนพื้นบ้าน เป็นต้น 

Christmas Markets in Shanghai เป็นเทศกาลช่วงคริสต์มาส ในเดือนธันวาคม เป็นงานที่รวมร้านอาหารดังของเซี่ยงไฮ้มาเปิดให้เลือกซื้อเลือกชิม ภายในงานยังมีแสง สี เสียง และอาหารรสเลิศ จากร้านชื่อดังของเมืองในบรรยากาศแสนอบอุ่น   

เทศกาลศิลปะนานาชาติ เซี่ยงไฮ้ เป็นเทศกาลที่จัดในช่วงประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี ภายในงานมีทั้งการแสดงงานศิลปะจากทั่วโลก การแสดงบนเวที การแสดงด้านศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ เป้าหมายคือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว

Gucun Cherry Blossom Fair หรือเทศกาลชมดอกซารุระ จะจัดขึ้นประมาณวันที่ 15 มีนาคม ถึง 15 เมษายน ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระที่ออกดอกสะพรั่งไปทั่วเมือง โดยเฉพาะบริเวณสวนสาธารณะกู้ชุน ในเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ที่มีให้ชมมากกว่าหมื่นดอก จาก 11 สายพันธุ์ เพื่อเป็นการต้อนรับการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ 

Longhua Temple Spring Festival Ceremony เทศกาลท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิของวัดหลงหัว จัดประมาณเดือนมีนาคม หรือ เมษายน ของทุกปี ภายในงานมีการตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม พร้อมการแสดงมากมาย และยังมีการจำหน่ายอาหารพื้นเมืองภายในงานอีกด้วย 

Shanghai Tourism Festival เทศกาลท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ จัดประมาณเดือนกันยายนของทุกปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพัก ท่องเที่ยว และชิมอาหารขึ้นชื่อของกรุงเซี่ยงไฮ้ โดยภายในงานมีกิจกรรมทางวัฒนธรรม และการแสดงมากมาย 

เทศกาล ‘Shining Shanghai Festival จัดขึ้นที่เขตจิงอัน ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม บริเวณเลียบชายฝั่งแม่น้ำซูโจว ภายในงานมีการผสมผสาน ทั้งด้านอาหาร กีฬา ดนตรี และเกมส์ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสง สี เสียง บริเวณริมแม่น้ำซูโจวอีกด้วย  

• Visa เมื่อก่อนเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนต้องดำเนินการขอวีซ่าที่สถานทูตจีน แต่ในปัจจุบัน คนไทยสามารถเข้าจีนแบบฟรีวีซ่าได้แล้ว โดยสามารถท่องเที่ยวในประเทศจีนได้นานถึง 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป
• ตั๋วเครื่องบิน ตรวจเช็ควันเวลาเดินทาง และทำการจองตั๋วเพื่อให้พร้อมก่อนการเดินทาง
• เสื้อผ้า และการแต่งกาย ควรเตรียมเสื้อผ้า และการแต่งกายให้เข้ากับฤดูที่เราไป เช่น หากไปช่วงฤดูหนาว ซึ่งอากาศมีโอกาสติดลบ และมีความแห้งมาก ควรเตรียมเป็นเสื้อผ้าประเภทวูลขนสัตว์เพื่อเพิ่มความอบอุ่น หรือพวกเสื้อฮีทเทคที่มีขายทั่วไป อาจพกหมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ลองจอห์น เพิ่มเข้าไปด้วยก็จะดีมาก แต่หากเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอากาศเย็นสบาย ก็เตรียมเป็นพวกเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืดธรรมดา แล้วคลุมทับด้วยแจ็ตเก็ตสักตัว หรือใส่เสื้อฮู้ดกับยีนส์ก็เพียงพอ นอกจากนี้ควรเตรียมรองเท้าที่สวมใส่สบาย รวมถึงหมวก และแว่นตากันแดดไปด้วย
• กระเป๋าเสื้อผ้า จัดเตรียมให้พอเหมาะกับข้าวของที่เราต้องการนำไปด้วย ซึ่งถ้ามีปริมาณมาก และต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน กระเป๋าเดินทางควรมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม เพราะหากน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม นอกจากนั้นกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไปควรมีความแข็งแรง และมีกุญแจ ล็อกเพื่อความปลอดภัย ส่วนกระเป๋าติดตัวขึ้นเครื่องนั้น ควรมีน้ำหนัก ไม่เกิน 7 กิโลกรัม
• เครื่องสำอาง โลชั่นบำรุงผิว กันแดด ลิป ข้าวของเครื่องใช้ประจำตัว ควรเตรียมไปให้พร้อม เพื่อไม่ต้องวุ่นวายหาซื้อใหม่ ช่วยทั้งประหยัดเวลา และประหยัดเงินในกระเป๋า
• กระเป๋ายา เตรียมยาต่าง ๆ เช่น ยาแก้ปวดหัว ตัวร้อน แก้ไอ แก้ร้อนใน แพ้ ผื่นคัน หรือยาประจำตัว เพราะยาที่ประเทศจีนส่วนใหญ่เป็นยาสมุนไพร อาจหายได้ แต่ไม่เร็วทันใจ ดังนั้นควรเตรียมไปด้วยจะดีที่สุด
• Adaptor จีนใช้ไฟฟ้าระบบ 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ใช้ปลั๊กแบบ G และ M ปัจจุบันนิยมใช้ปลั๊กตัวผู้แบบ G (ปลายแบน) แต่แบบปลายกลมก็ยังมีใช้อยู่ ดังนั้นควรเตรียม Adaptor ไปด้วยก็จะดีมาก
• โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือจะใช้ได้เฉพาะเครื่องที่ขออนุญาตเปิดใช้ต่างประเทศ (เปิด Roaming) โดยสามารถโทรเข้า-รับได้ทุกสาย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับค่ายมือถือ และแพ็จเก็จที่แตกต่างกัน 
• กล้องถ่ายรูป รวมถึงอุปกรณ์สำหรับบันทึกข้อมูล เช่น SD Card อุปกรณ์ในการชาร์ตต่าง ๆ เช่น สายชาร์ต หรือแบตเตอรี่ ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะถ่านใส่กล้องถ่ายรูป เพราะที่จีนราคาจะสูงมาก