18 ประเทศน่าเที่ยว ที่ต้องไปสักครั้ง…ก่อนตาย 2566
โลกนี้แสนกว้างใหญ่ แต่ชีวิตเราแสนสั้นนัก ลองมาดู 18 ประเทศที่สวยงามมากของโลกนี้ที่ต้องไปซักครั้งหนึ่งในชีวิต
18. ประเทศแคนาดา Canada
เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากรัสเซีย มีธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามกว้างไกล, เมืองเล็กๆทั้สวยงาม และเมืองใหญ่ที่ทันสมัย มีจุดหมายให้ค้นหามากมายไม่รู้จบ เช่น เมืองที่มีเสน่ห์จากความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม เช่น Montreal, Toronto และ Vancouver น้ำตกที่ยิ่งใหญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก Niagara Falls
17. ประเทศบราซิล Brazil
ประเทศที่มีงาน Festival ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พร้อมชายหาดและภูเขาที่มากมายไม่รู้จบ โดยเฉพาะที่เมืองริโอเดอจาเนโร เมืองที่ถือได้ว่ามีสีสันมากที่สุดของบลาซิล และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใหม่ รูปปั้นพระเยซูบนยอดเขา(Christ the Redeemer) หรือน้ำตก Iguaçu’s ที่สวยงามที่สุดของบลาซิล หรือ ป่าดงดิบสุดมหัศจรรย์ ป่าอะเมซอน หรือเมืองเซาเปาโลที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยสีสัน
16. ประเทศจีน China
ประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ดูล้ำอนาคต มีกำแพงเมืองจีนให้เดินเล่น ล่องแม่น้ำแยงซีเกียงที่ยาวที่สุดในโลก ธรรมชาติที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจ ถนนคนเดินช้อปปิ้ง ตลาดกลางคืน และพระราชวังต้องห้ามสุดยิ่งใหญ่
15. ประเทศเนปาล Nepal
ประเทศที่มีเทือกเขาสูงชัน หนาวเย็นและสวยงาม มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสุงต่ำ สลับซับซ้อน ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีส่วนผสมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างอินเดียและจีน มีบรยากาศของเมืองเก่าสีสันสดใส ตัดกับทัศนียภาพที่แสนงดงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้ต้องไปเยือนซักครั้งในชีวิต
สามารถไปทำวีซ่าแบบ On Arrival ได้เลย
14. หมู่เกาะมอริเชียส Mauritius Island
อยู่ใกล้ๆกับมาดากาสก้า นอกชายฝั่งแอฟฟริกา มีสภาพภูมิประเทศที่น่าสนใจมากเพราะตั้งอยู่บนที่ราบใต้ท้องทะเล(Submarine Plateau)ที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 150 เมตรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ที่ขอบของที่ราบนี้กลับมีหน้าผาใต้ทะเลที่เป็นแหวลึกดำดิ่งลงไปอีกถึง 4,000 เมตร ที่น้ำทะเลดันเอาทรายรอบๆให้ไหลลงเหวทำให้ดูเหมือนกับเป็นน้ำตกใต้ท้องมหาสมุทร
13. ประเทศอียิปต์ Egypt
เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความลึกลับน่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพีรามิด สุสานฟาโรห์ รูปปั้นหินสฟริงซ์ยักษ์ และทะเลทรายกว้างใหญ่สุดสายตา และธรรมชาติแปลกๆที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเช่น Red Sea Rivera
12. ประเทศออสเตรีย Austria
เป็นประเทศที่มีหลายอย่างน่าสนใจผสมผสานอยู่ด้วยกัน มีอาคารสถาปัตยกรรมในยุคเก่าที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม มีสถานที่ทางศาสนา ประวัติศาสตร์ พื้นที่ทางการทหาร อยู่ร่วมกับความงดงามทางธรรมชาติ หุบเขาหิมะ ทะเลสาบสีเขียว และชีวิตในเมืองสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสัน การเดินทางมาเที่ยวประเทศออสเตรียในแต่ละช่วงเวลาของปีจึงแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีเมืองที่แสนโรแมนติกและคลาสสิคอย่าง ซาวบวก(Salzburg) เมืองบ้านเกิดของโมสาร์ตด้วย
11. ประเทศกรีซ Greece
ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกยุคโบราณ ปัจจุบันนอกจากซากปรักหักพักของสิ่งก่อสร้างที่เคยยิ่งใหญในอดีตแล้ว ก็ยังมีเมืองชนบทที่สวยงามมากเช่น ซันโตรินี่(Santorini) เมืองริมทะเลอันโด่งดัง
10. ประเทศเนเธอร์แลนด์ Netherlands
ประเทศแห่งกังหันลม ดอกทิวลิป และแม่น้ำลำคลอง แม้ว่าจะมีการพัฒนาอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาแต่เมืองหลวงอาร์มสเตอร์ดัม(Amsterdam)ก็ยังเต็มไปด้วยความคลาสสิคและบรรยากาศเก่าๆของรวมทั้งเมืองสวยงามอื่นๆอีกหลายเมืองเช่น Hague, Delft และ Haarlem
9. ประเทศออสเตรเลีย Australia
เป็นประเทศที่มีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยเฉพาะชายหาดมากมายตามชายฝั่งที่มีคลื่นลมแรงเหมาะกับการโต้คลื่นอย่างมาก มีธรรมชาติป่าเขาอีกมากมายสำหรับนักผจญภัย มีเกาะสวนสัตว์ Taronga ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก และเมืองใหญ่ทันสมัยที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม อย่างเช่น ซิดนีย์(Sydney) และเมลเบิร์น(Melbourne)
8. ประเทศอเมริกา U.S.A.
ประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก และประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ต้นกำเนิดทางด้านวัฒนธรรมโดยเฉพาะจากภาพยนตร์ใน Hollywood, Disney, Universal และซุปเปอร์ฮีโร่จาก Marvel อีกทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆมากมายในโลก ประเทศแห่งเสรีภาพ และการแสดงออก แหล่งคาสิโน Las Vegas เทพีเสรีภาพ สะพาน Golden Gate และก็ยังมีธรรมชาติที่มากมายด้วยเช่นกัน ทั้ง Grand Canyon, Black Hills, Yellowstone และ น้ำแข็งกว้างไกลสุดสายตาที่ Alaska
7. ประเทศตุรกี Turkey
ประเทศที่เต็มไปด้วยควางดงามจากการผสมผสานของวัฒนธรรมจากตะวันออกและตะวันตก จนบางคนเรียกว่าเป็นสะพานเชื่อมสองซีกโลก เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าสนใจ และมีความงามของบ้านเมือง สิ่งก่อสร้างและธรรมชาติแตกต่างจากหลายๆประเทศของโลก
คนไทยไปเที่ยวตุรกีไม่ต้องขอวีซ่า!
6. ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Switzerland
เป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาโดยตลอด ไม่ว่าใครที่เคยไปมาแล้วก็มักจะต้องพูดถึงความงดงามของทัศนีย์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นเทือกสูงใหญ่ สลับซับซ้อน และหมุ่บ้านน้อยใหญ่ตามเชิงเขา ภูเขาแอลป์อันโด่งดัง
5. ประเทศไอซ์แลนด์ Iceland
ออโรร่า(aurora)หรือแสงเหนือว่ากันว่าเป็นการแสดงของธรรมชาติที่สวยงามตระการตามากที่สุดของโลกเรา ซึ่งคุณจะหาดูได้จากที่ประเทศไอซ์แลนด์ แสงลึกลับที่เต้นไปมาเหนือขอบฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ทางธรรมชาติที่แสนแปลกตาและหาดูที่ไหนในโลกไม่ได้
4. ประเทศญี่ปุ่น Japan
เป็นประเทศฮอตฮิตที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะเดินทางเพียง 5 ชั่วโมงจากประเทศไทย มีสายการบิน low cost หลายสายให้บริการ มีบรรยากาศแบบเก่าแก่และใหม่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว มีวัดวาอารามที่สวยงาม พร้อมธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ มีอาหารการกินที่อร่อยถูกปาก มีแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก และวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกทั้งแฟชั่น และการ์ตูนอานิเมะ
3. ประเทศนิวซีแลนด์ New Zealand
ตั้งแต่อ่าวของเกาะลึกเข้าไปในหุบเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ และแนวเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าอัศจรรย์ของเกาะนิวซีแลนด์ทั้งสิ้น ยอดเขากราเซีย(Glaciated) อันโด่งดัง, ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ไปจนถึง ป่าดิบที่แสนจะสมบูรณ์ รอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปค้นหา
2. ประเทศฝรั่งเศส France
ประเทศที่ว่ากันว่าโรแมนติกที่สุดในโลก ทั้งไม่ว่าจะเป็นการนั่งจิบไวน์ชม หอไอเฟล หรือล่องแม่น้ำแซน(Seine), ชมพระราชวังแวซายแสนสวยงาม โบสถ์สุดอลังการ ปราสาทยิ่งใหญ่ ไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ชื่อดังที่สุดของโลก และหมู่บ้านชนบทเล็กๆแต่เต็มไปด้วยมนเสน่ห์
1. ประเทศอิตาลี Italy
เป็นแหล่งรวมผบงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงามเอาไว้มากมายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของศิลปะของชาวตะวันตก ตั้งแต่ซากโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่น โครอสเสี่ยม โบสถ์ขนาดยักษ์ ผลงานภาพวาดและรูปปั้นชื่อดังต่างๆของโลก และยังมีเมืองเล็กๆตามชนบทที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวเช่นเดียวกันกับฝรั่งเศษ และยังรวมไปถึงอาหาร ไวน์และกาแฟเลิศรสด้วย