แนะนำ โรงแรมที่พัก ไทเป ไต้หวัน อัพเดตล่าสุด

12 เมืองสุดโรแมนติคในยุโรป สวยจนแทบลืมหายใจ 2567


ถ้าพูดยุโรปหลายคนคงจะนีกถึง สถานที่สุดโรแมนติคเป็นบรรยากาศ เก๋ๆ ตั้งแต่ ยุคโรมันจนถึงยุคกลาง ที่มีอยู่มากมายหลายเมือง อย่างเช่น ปาริส และปราก ในบทความนี้เราได้เลือก 12 เมืองที่โรแมนติกที่สุดของยูโรปเอาไว้ให้ทั้งคนมีคู่หรือจะไม่มีคู่ก็ต้องอยากไป

 

1. เมืองอัมสเตอร์ดัม – Amsterdam, ประเทศเนเธอร์แลนด์

ไม่มีเมืองไหนในประเทศยุโรปที่จะให้อารมณ์โรแมกติกได้เหมือนกับเมืองหลวงของชาวดัทซ์ เมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองยอดนิยมเมืองหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับคนที่ต้องการบรรยากาศโรแมติกที่สุดแนะนำให้เช่าบ้านเรือที่พาคุณล่องไปตามคำคลองของเมืองชื่นชมบรรยากาศบ้านเรือนริมสองฝั่งน้ำ แค่คิดก็ฟินแล้ว

 

2. กรุงปารีส – Paris, ประเทศฝรั่งเศส

คงไม่มีใครไม่รู้จักปารีส และแน่นอนว่าเมืองนี้จะต้องเป็นติดอยู่ในอันดับเมืองโรแมนติกที่ไม่ใช่แค่ในยุโรป แต่เป็นของทั้งโลกทีเดียว เป็นแหล่งกำเนิดของเรื่องราวโรแมนติก ทั้งในวรรณคดี นิยาย และภาพยนตร์มากมาย ที่นี่จะเป็นหนึ่งในเมืองที่คุณจะอยากมาพักผ่อนกับคนรู้ใจ อะไรจะดีไปกว่าการเปิดแชมเปญซักขวดแล้วค่อยๆชื่นชมบรรยากาศของเมืองที่หอไอเฟล

 

3. กรุงปราก – Prague, สาธารณรัฐเซ็ก

ปรากเป็นอีกเมืองฮิตแสนโรแมนติกของยุโรป โดยเฉพาะฝั่งเมืองเก่าที่มีบรรยากาศตึกรามบ้านช่อง ที่สวยงามอย่างกับในหนัง และสะพานหินสวยงาม เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าใครได้ไปแนะนำลองนั่งตามร้านเก่าแก่แต่ดูหรูไม่เบาที่ตั้งอยู่ตามข้างทางในเมือง เปิดไวน์ซักขวด ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองและผู้คนที่เดินผ่านไปมา อาจจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ดีๆที่ลืมไม่ลงไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

4. เมืองบูดาเปสต์ – Budapest, ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์เป็นเมืองที่มักจะเป็นเมืองที่คนไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วเมืองนี้ก็น่าสนใจ และดีงามไม่แพ้เมืองอื่นๆในยุโรปเลย จึงเป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะได้ไปเที่ยวเมืองนี้ในตอนที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะเหมือนกับปาริส

 

5. เมืองอินส์บรูค – Innsbruck, ประเทศออสเตรีย

อินส์บรูคเป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย   ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบๆ แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ บรรยากาศที่แปลกตาไม่เหมือนใครของอินส์บรูคคือการมีเทือกเขาแอลป์ที่สูงชันตั้งอยู่หลังบ้าน นักท่องเที่ยวเมื่อย่างก้าวออกจากสถานีรถไฟจะเห็นเทือกเขาแอลป์ได้ทันที

 

6. เมืองเวนิส – Venice, ประเทศอิตาลี

หลายๆคนคงจะเดาได้ว่าต้องมีเวนิสอยู่ในอันดับเมืองโรแมนติกของยุโรปด้วยอย่างแน่นอน เมืองเน้นการเดินทางด้วยคลอง มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนกับเมืองไหนๆในโลก สวยงามจนหลายๆแห่งนำไปเลียนแบบ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลายคนบอกว่า มากเกินกว่าที่เมืองนี้จะรับได้แล้วก็ตาม แต่ยังไงที่นี่ก็ยังเป็นหนึ่งในเมืองสุดโรแมนติกของยุโรปอยู่ดี

 

7. เมืองเบลด – Bled, ประเทศสโลวีเนีย

เมือง Bled เมืองแห่งปราสาท(โบสถ์)กลางทะเลสาปสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียนแอลป์ ประเทศสโลวีเนีย  ที่ใครๆ มาเที่ยวสโลวีเนีย ต้องไม่พลาดไปเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้

 

8. เมืองฟลอเรนซ์ – Florence, ประเทศอิตาลี

ฟลอเรนซ์เป็นหนึ่งในเมืองที่อาจจะไม่ดังที่สุดแต่หลายๆคนกลับโหวตว่าดีงามที่สุดของประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงาม หลากหลาย และมีชีวิตชีวาที่สุดของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นร้านไอศครีม Gelato ชื่อดัง หรือเมืองชนบทอย่าง Tuscany และร้านอาหารอร่อยๆมากมายในเมืองที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ ส่วนตัวเมืองเองนั้นก็เต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมและศิลปะที่สวยงาม

 

9. เมืองซูริค – Zurich, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สวิสเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่หลายๆคนโหวตว่าสวยงามที่สุดในโลก เมืองซูริคถึงแม้จะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ก็เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ด้วยความโรแมนติกของเมือง ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ สวยงาม สะอาดตา

 

10. เมืองโคเปนเฮเกน – Copenhagen, ประเทศเดนมาร์ก

อีกหนึ่งเมืองสุดชิวของยุโรป ที่มีชื่อเสียงทั้งไวน์และชอคโกแลต กับบรรยากาศแบบเอ้าดอร์สุดชิลริมน้ำ ที่ให้บรรยากาศสุดโรแมนติกของยุโรป

 

11. เมืองบาร์เซโลนา – Barcelona, ประเทศสเปน

บาร์เซโลนาเป็นเมืองยอดนิยมที่สุดของประเทศสเปน เพราะมีความเฉพาะตัวที่หาไม่ได้ในเมืองอื่นๆของยุโรป โดยเฉพาะผลงานด้านสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมือง ซึ่งมีทั้งเก่าและใหม่ผสมกันอยู่อย่างลงตัว อีกทั้งบรรยากาศของเมืองที่เน้นการชิวนั่งเอ้าดอร์กินบรรยากาศที่สวยงามริมทะเล รวมทั้งอาหารทะเลอันขึ้นชื่อของเมืองนี้ด้วย

 

12. เมืองซานโตรินี่ – Santorini, ประเทศกรีซ

ซันโตรินี่เป็นหนึ่งในเมืองริมทะเลที่โรแมนติกที่สุดของยุโรป อยู่ที่ประเทศกรีซ มีบรรยากาศเมืองที่ตั้งอยู่ตามเนินเขา พร้อมอาคารต่างๆที่สร้างเหมือนเป็นบ้านดินทาสีขาวเหมือนกันหมดทุกหลัง ที่ให้บรรรยากาศที่คุณจะลืมไม่ลง โดยแนะนำให้เดินทางไปเที่ยวนอกช่วงไฮซีซัน คนจะได้ไม่เยอะเกินไปและราคาที่พักที่ถูกลง