ขับรถเที่ยวแพร่ ไปแค่เสาร์ – อาทิตย์ แบบ Budget Trip 2567
หนาวนี้ ใครมองหาที่เที่ยวสไตล์ New Normal บรรยากาศสบายๆ อยู่ละก็ ขอชวนให้เก็บแพร่ไว้เป็นตัวเลือกหนึ่งในใจ เชื่อว่าถ้าใครชอบความสงบ เรียบง่าย และยิ่งถ้าเป็นสายบุญที่ชอบไหว้พระทำบุญก็ยิ่งน่าจะถูกใจ เพราะแพร่มีทุกอย่างที่คุณอยากได้แน่นอน แถมเมืองนี้ยังมีข้อดีตรงที่เป็นเมืองเล็ก เที่ยวง่าย ไม่ต้องใช้เวลามากมายนักด้วยจ้า อยากเที่ยวเมืองแพร่ให้ทั่วๆ ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ก็เก็บแลนด์มาร์คหลักๆ ได้เกือบครบแล้วนะ ถ้าคิดว่าทั้งหมดนี้คือใช่! ก็ไปส่องตั๋วเครื่องบินแพร่กับ Traveloka ได้เลยน้า จองง่าย ได้ราคาดี เตรียมตัวไปเที่ยวแพร่แบบแฮปปี้กันได้เลย
จองตั๋วเครื่องบินไปแพร่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Phrae.PRH
ขับรถเที่ยวแพร่วันเสาร์ – อาทิตย์ แบบประหยัด
ออกสตาร์ทกันที่แลนด์มาร์คสวยกลางเมืองแพร่ที่คนรักงานไม้หรือของเก่าน่าจะแฮปปี้ เพราะที่ คุ้มวงศ์บุรี เค้ามีให้ชมกันอย่างจุใจ อาคารสไตล์ไทยผสมยุโรปที่นิยมเรียกกันว่าบ้านแบบขนมปังขิงหลังนี้ โดดเด่นสะดุดตากันตั้งแต่สีชมพูสวยหวานที่เห็นได้แต่ไกล ด้านในเต็มไปด้วยงานไม้ฉลุฝีมือละเอียดอ่อนช้อยสวยงามให้ชมกันในเกือบทุกมุมของบ้านเลยละ แถมยังมีเฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้โบราณอีกมากมายที่เค้าเก็บไว้ให้ชมกันด้วยนะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้อารมณ์และยังคงมีชีวิตชีวา เชื่อว่าหลายคนน่าจะถูกใจ
จากพิกัดแรกไปไม่ไกล เราก็จะได้ชมความสวยของ วัดพงษ์สุนันท์ กันเป็นที่ต่อมา เพราะว่านี่คือวัดสวยซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวัดประจำตระกูลวงศ์บุรี ซึ่งเป็นเจ้าของคุ้มที่เราเพิ่งไปเยือนกันมาละจ้า เพราะตระกูลวงศ์บุรีซึ่งสืบเชื้อสายกันมาจากเจ้าผู้ครองนครแพร่ในยุคอดีตนั้น เป็นผู้บูรณะวัดนี้จากวัดร้างให้กลับมาคืนความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าแสนสุขซึ่งมีอายุเกือบ 600 ปี และยังมีวิหารแก้วองค์พระธาตุเจดีย์ 108 ยอด องค์เจดีย์พระธาตุพงษ์สุนันมงคล และองค์พระนอนขนาดใหญ่ให้ได้กราบเพื่อความเป็นสิริมงคลกัน เป็นอีกวัดสำคัญที่อยากชวนให้แวะมา
อีกหนึ่งวัดสวยซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ก็คือ วัดจอมสวรรค์ วัดเก่าแก่ในตัวเมืองแพร่ที่เก๋ไม่ซ้ำใคร เพราะมีอาคารที่สร้างจากไม้สักทั้งหลังเพียงหลังเดียว ทำหน้าที่เป็นทั้งโบสถ์ วิหาร และกุฏิไปพร้อมๆ กัน วัดนี้สร้างขึ้นด้วยศิลปะสไตล์พุกาม โดดเด่นสะดุดตาด้วยอาคารที่มีหลังคาลดหลั่นกันลงมาถึง 9 ชั้น ด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางคันธราฐศิลปะพม่า และยังมีองค์พระซึ่งสร้างจากไม้ไผ่สานลงรักปิดทองสวยงามให้ได้กราบสักการะกันด้วยนะ เป็นวัดในอีกสไตล์ที่แทบจะหาชมไม่ได้จากที่อื่นในเมืองไทยจ้า อันนี้ควรมาเช็คอิน
วัดพระธาตุปูแจ คืออีกหนึ่งศาสนสถานสำคัญอันเก่าแก่ที่ชาวอำเภอร้องกวางในจังหวัดแพร่ให้ความเคารพนับถือศรัทธา พระธาตุปูแจนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุส่วนตาตุ่มข้างขวาขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้ สันนิษฐานกันว่าเป็นโบราณสถานที่มีอายุหลายร้อยปีเลยเชียวละ ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาจึงใช้เป็นที่ชมทิวทัศน์โดยรอบได้แบบสบายๆ มีองค์พระใหญ่สีขาวสะอาดให้ได้แวะกราบนมัสการกันด้วยจ้า สายบุญน่าจะถูกใจ
นอกจากวัดสวยๆ เมืองแพร่ยังมีจุดชมทิวทัศน์แจ่มๆ อย่าง ม่อนแม่ถาง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สามารถขับรถขึ้นไปชมวิวธรรมชาติรอบๆ ได้แบบ 360 องศา มีเนินเขาสลับซับซ้อนเรียงรายรอบด้านสวยงาม อากาศเย็นสบาย ไม่ไกลกันนักยังมี อ่างเก็บน้ำแม่ถาง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีทิวทัศน์สบายตา ถ้าหิวก็มีแพริมน้ำให้เราแวะชิมเมนูอาหารที่ใช้ปลาสดๆ ในกระชังซึ่งเลี้ยงในอ่างเก็บน้ำเป็นวัตถุดิบหลัก ได้กินของอร่อยท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ไม่แฮปปี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
จุดหมายปลายทางคืนนี้ ขอชวนมานอนชมธรรมชาติกันที่ อุทยานแห่งชาติแม่ยม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดลำปางและแพร่ ช่วงนี้เป็นฤดูที่เหมาะกับการมากางเต็นท์รับลมหนาวนอนดูดาวแบบสุดๆ เลยละ ที่นี่มีทั้งจุดกางเต็นท์ชิลล์ๆ ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ อย่างแถวๆ แก่งเสือเต้น ซึ่งเป็นแก่งหินกลางแม่น้ำบรรยากาศดี๊ดี ตื่นเช้ามาก็เดินไปดูทะเลหมอกที่ผาอิงหมอกได้แบบไม่ไกลมาก หรือถ้าอยากลุยหน่อยก็แนะนำที่ผาลาด ดงสักงาม หรือหล่มด้งได้เลยจ้า รับรองว่าสะใจแน่นอน
เช้าวันที่สองในเมืองแพร่ เรามุ่งหน้าไปเช็คอินที่แลนด์มาร์คหลักอย่าง แพะเมืองผี กันตั้งแต่ช่วงแดดยังไม่แรงมาก เพราะไม่อยากเดินฝ่าไอร้อนให้เสียอารมณ์ แถมแดดช่วงนี้ก็ยังถ่ายรูปได้ดีกว่าแดดจัดๆ อีกด้วยนะ วนอุทยานแพะเมืองผีนั้นกินพื้นที่ราวๆ 167 ไร่ เป็นอีกพิกัดที่สามารถชมความมหัศจรรย์ของภูมิประเทศที่สร้างสรรค์จากฝีมือธรรมชาติได้แบบจุใจเลยละ พื้นที่เสาดินหรือกำแพงหินของที่นี่นั้นถูกแดดและลมกัดเซาะมานานนับล้านปี เล็งเหลี่ยมกันให้ดีๆ เชื่อว่าจะได้รูปเก๋ๆ กลับไปจากที่นี่ไม่น้อยเลย
ไม่ไกลกับแพะเมืองผีคือพิกัดที่สายช้อปต้องแฮปปี้แน่ๆ เพราะที่ บ้านทุ่งโฮ้ง แห่งนี้มีร้านรวงที่วางขายข้าวของเครื่องใช้ซึ่งเกือบทั้งหมดทำจากผ้ามัดย้อมและผ้าหม้อห้อมซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองแพร่กันแบบจัดเต็มเลยจ้า เดี๋ยวนี้เค้าไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าสำหรับบรรดา สว สูงวัยเท่านั้นนะ แต่มีทั้งเสื้อ กางเกง กระโปรง กระเป๋า ร่ม และอีกหลายโปรดักท์ที่ดีไซน์เก๋เลยเชียวละ รับรองว่าทุกเพศทุกวัยได้กระจายรายได้กันที่นี่แน่นอนเลยจ้า ไม่เชื่อก็มาแวะดูกันเองเลย
บ้านนาคูหานั้นติดอันดับ 1 ใน 7 สถานที่ที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย แถมยังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสถานที่น่าเที่ยวของเมืองแพร่อย่าง วัดนาคูหา วัดเล็กๆ กลางทุ่งนากว้างในวงล้อมของขุนเขา มีสะพานไม้ไผ่ทอดตัวยาวจากบริเวณเชิงเขาด้านหนึ่งไปยังตัววัด มีองค์พระเจ้าตนหลวงเป็นองค์พระใหญ่สีทองตั้งเด่นเป็นสง่ามองเห็นมาแต่ไกล เชื่อกันว่าหากได้นำลูกสมอมากราบไหว้ขอพรในเรื่องสุขภาพจากพระเจ้าตนหลวงก็จะได้สมความปรารถนาด้วยนะ อย่าลืมแวะมาขอพรกันเน้อ
ขับรถจากวัดนาคูหามาแค่นิดเดียวเท่านั้น ก็จะมาถึงพุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เพื่อแวะกราบองค์ พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง กันแล้วจ้า ที่นี่ตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งต้นน้ำของลำน้ำยมที่อุดมสมบูรณ์มาก แถมยังได้ชื่อว่ามีโอโซนดีที่สุดในเมืองไทยแห่งหนึ่งเลยด้วยนะ สายบุญที่ชอบไหว้พระถ้าได้มาที่นี่ก็น่าจะแฮปปี้ เพราะนอกจากพระธาตุอินทร์แขวนซึ่งจำลองมาจากเมียนมาร์แล้ว ยังมีพระเจ้าชยันตีมหัศจรรย์ พระเจ้าทันใจ พระเจ้าสำเร็จเร็วพลัน พระเจ้าหยกทิพย์ พระไม้ขนุนมงคลคลคีรีศรีภูมิทิพย์ และองค์พระผุดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอีกด้วยละ ปักหมุดจ้า มาที่นี่ได้กราบพระกันรัวๆ แน่นอน
วัดพระธาตุจอมแจ้ง ถือเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สำคัญในเมืองแพร่เลยละ เพราะเชื่อกันว่านี่คือสถานที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระหัตถ์ข้างซ้ายขององค์พระพุทธเจ้า สันนิษฐานกันว่าที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.1331 โน่นเลยจ้า ด้านในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อจอมแจ้งซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี และยังมีองค์พระยืนขนาดใหญ่และองค์พระพุทธไสยาสน์ให้ได้กราบขอพรกันด้วยจ้า เป็นอีกวัดที่ควรแวะมาไหว้พระรับความเป็นสิริมงคลกัน
ถ้ามาถึงเมืองแพร่แล้วไม่ได้มากราบขอพรที่ วัดพระธาตุช่อแฮ ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงที่นี่เลยนะ เพราะนี่คือวัดซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแพร่ที่มีอายุและประวัติที่เก่าแก่ยาวนาน องค์พระธาตุช่อแฮยังนับเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีขาลอีกด้วยจ้า ด้านในองค์พระธาตุเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุส่วนข้อศอกด้านซ้ายขององค์พระพุทธเจ้านะ ว่ากันว่าหากนำผ้าแพรสามสีมาถวายองค์พระธาตุ จะเกิดอานิสงส์ให้ชีวิตมีพลังและคุ้มครองป้องกันตนเองจากศัตรูได้ มาแพร่เมื่อไหร่ต้องปักหมุดวัดนี้เอาไว้เลยน้า
ก่อนกลับบ้าน เราแวะมาปิดท้ายทริปกัน ณ วัดพระธาตุดอยเล็ง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดพระธาตุช่อแฮมาประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากที่นี่จะเป็นวัดสำคัญซึ่งมีประวัติความเป็นมาร่วมกันกับวัดพระธาตุช่อแฮและวัดพระธาตุจอมแจ้งแล้ว องค์พระธาตุดอยเล็งยังถือเป็นพระธาตุที่ประดิษฐานอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดของเมืองแพร่อีกด้วยนะ ที่นี่จึงสามารถใช้เป็นพิกัดชมวิวมุมสูงสวยๆ รอบวัดได้แบบ 360 องศาเลยด้วยจ้า จะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกจากที่นี่ก็สวยหมดนะ เป็นอีกพิกัดที่ไม่อยากให้พลาดกันเชียว
เมืองแพร่คือเมืองเล็กสุดน่ารักที่แวดล้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและบรรยากาศดีๆ มากมาย ใครหลงใหลความสงบงดงามของวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่น วัฒนธรรม และความน่ารักของผู้คนในพื้นที่ บอกเลยว่าที่นี่ตรงใจแน่นอนจ้า มีเวลาแค่ 2 วันก็เที่ยวแลนด์มาร์คส่วนใหญ่ได้ครบหมดแล้วนะ แถมยังได้ขับรถเที่ยวชมเมืองนี้กันแบบสบายๆ เป็นอีกทริปชาร์จพลังใจที่เชื่อว่าน่าจะทำให้หลายคนแฮปปี้กันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว