5 เมืองน่าเที่ยวนอกกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 2567

5 เมืองน่าเที่ยวนอกกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เมื่อพูดถึงประเทศอังกฤษ หลายคนมักจะนึกถึงเมืองหลวง กรุงลอนดอนเป็นที่แรก เมืองที่มีจุดท่องเที่ยวสำคัญๆรวมอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น London Eye, BigBen, Buckingham Palace หรือ Tower Bridge เป็นต้น แต่นอกเหนือจากสถานที่ดังกล่าวนั้น ประเทศอังกฤษยังมีเมืองท่องเที่ยวอีกหลายแห่งนอกจากกรุงลอนดอนที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ 5 เมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนประเทศสุดคลาสสิคแห่งนี้ รับรองว่าเมื่ออ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะได้ข้อมูลสำหรับแพลนทริปครั้งต่อไปแน่นอนค่ะ

 

1. Salisbury (ซาลส์เบอรี่) เป็นเมืองที่ตั้งของอนุสรณ์สถานสำคัญยุคก่อนประวัติศาสตร์ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง คือ Stonehenge (สโตนเฮนจ์) ประกอบด้วยกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักถึง 30 ตัน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง อยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่ ซึ่งยังไม่มีผู้ใดทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน เมื่อพิจารณาถึงอายุของกองหินประหลาดนี้แล้ว คาดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ทำให้ผู้คนต่างสงสัยกันว่าคนในยุคนั้นสามารถยกแท่นหินที่มีน้ำหนัก 30 ตันขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร นับว่าเป็นหนึ่งในปริศนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดทางโบราณคดีของโลก เราสามารถเดินทางโดยรถบัส เพียง 40 นาทีจากสถานี Salisbury ในตัวเมืองยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกแห่งก็คือ Salisbury Cathedral โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บรักษาต้นฉบับของ “Magna Carta” หรือมหากฎบัตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่มาของกฎหมายรัฐธรรมนูญของอังกฤษที่ตราขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1215 เป็นต้นแบบการปกครองประชาธิปไตยที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งหลงเหลืออยู่เพียง 4 ฉบับในโลก (อีกสามฉบับอยู่ที่ Lincoln Cathedral และ British Library) นอกจากนี้ Salisbury Cathedral ยังเป็นโบสถ์ที่มีหอคอยที่สูงที่สุดในอังกฤษ และมีนาฬิกาโบราณเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงทำงานได้ ภายในตัวโบสถ์มีความสวยงามควรค่าแก่การไปเยือนมากๆ อีกทั้งบรรยากาศในเมืองที่ยังมีกลิ่นอายความเก่าแก่จากตึกและอาคารแบบดั้งเดิม ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเมืองนี้

ค่าเข้าชม Stonehenge: 15.50 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และ 9.30 ปอนด์ สำหรับเด็ก
เวลาเปิดปิดต่างกันในแต่ละฤดู สามารถเช็คข้อมูลและจองตั๋วออนไลน์ได้ ที่เว็บไซต์ https://bookings.english-heritage.org.uk/stonehenge/sessions.aspx?tid=2&_ga=1.12994679.1164943208.1479438265

ค่าเข้าชม Salisbury Cathedral : 12.50 ปอนด์ สำหรับ และ 8 ปอนด์ สำหรับเด็ก สามารถจองออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://salisburycathedral.digitickets.co.uk/tickets

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ London Waterloo ใช้เวลาประมาณ 1.30 นาที สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่ https://www.thetrainline.com/train-times/london-waterloo-to-salisbury

บรรยากาศรอบๆ stonehenge

โบสถ์ Salisbury Cathedral

 

 

2. Bath (บาธ) เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่เต็มไปด้วยความสวยงามจากสถาปัตยกรรมโรมัน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจาก Unesco และ English Heritage เนื่องจากมีประวัติศาสตร์อันยาวนานทั้งตัวอาคารบ้านเรือนเอง และบรรยากาศโดยรวม ทำให้บาธเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองบาธที่เป็นที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ The Roman Baths โรงอาบน้ำในยุคโรมันที่มีอายุกว่า 2,000 ปีซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดสปาของโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยตัวอาคารที่ยิ่งใหญ่กับสถาปัตยกรรมที่สวยงามทำให้สถานที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี นอกจาก Roman Baths สถานที่อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ Bath Abbey มหาวิหารสร้างที่ขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารแบบกอธิกที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ และว่ากันว่า สถาปัตยกรรมแบบกอธิกภายในมีความสวยงามที่สุดในทวีปยุโรป บาธเป็นเมืองที่เหมาะกับการเดิน หรือ ปั่นจักรยานชมเมือง ด้วยขนาดเมืองที่ไม่ใหญ่เกินไป อีกทั้งอากาศก็ดีมากเนื่องจากเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยหุบเขา สิ่งก่อสร้างที่มืชื่อเสียงอีกแห่งในเมืองสามารถเดินจากใจกลางเมืองไปได้ก็คือ The Circus และ Royal Crescent เป็นกลุ่มอาคารที่ออกแบบโดยสองพ่อลูก John wood ซึ่ง The Circus นั้นเป็นอาคารที่สร้างเป็นทรงกลมโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง ส่วน Royal Crescent นั้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีขนาดใหญ่กว่า The Circus มาก เดินเล่นถ่ายรูปเพลินดีค่ะ

ค่าเข้าชม Roman Bath: 15 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และ 9.50 ปอนด์ สำหรับเด็ก
ค่าเข้าชม Bath Abbey: 6 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และ 3 ปอนด์ สำหรับเด็ก (Tower Tour)

การเดินทาง: จาก Paddington Station (London) ถึง Bath spa Station ใช้เวลา 1ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ หรือ จาก Salisbury ประมาณ 1 ชั่วโมง เที่ยว Salisbury แล้วแพลนมาเที่ยว Bath ต่อได้เลยค่ะ หากมีเวลาแนะนำให้พักค้างคืน ที่นี่จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเมืองในอีกแบบหนึ่ง

Roman Bath

บริเวณวิหาร Bath Abbey

มุมมองด้านบนของ The Circus และ Royal Crescent เมืองบาธ

 

3. Oxford (อ๊อกซ์ฟอร์ด) หรือออกเสียงให้เท่ๆ แบบลอนดอนเนอร์ว่า อ๊อกซ์เฟิ่ด เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากลอนดอน เป็นอีกเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ มี University of oxford ซึ่งนอกจากเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ในจุดต่างๆของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยัง เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ แฮรี่ พอตเตอร์อีกด้วย อย่างเช่น ฉากบันไดเพื่อเข้าห้องโถงใหญ่ในปราสาท ฮอกวอตส์ ที่ Christ Church College, ห้องอ่านหนังสือ Duke Humfrey’s Library ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในห้องสมุด Bodleian Library หรือที่ภาควิชาเทวศาตร์ก็มีห้องพยาบาลของมาดามพรอมฟรีย์ เป็นต้น รู้อย่างนี้แล้ว แฟนหนังแฮรี่พอตเตอร์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนะคะ นอกจากนี้ในเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดก็ยังมีสถาปัตยกรรมสวยๆมากมายให้ได้ชมได้ทั่วทั้งเมือง เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

ค่าเข้าชม แตกต่างกันไปแต่ละช่วงฤดู สามารถเช็คราคาได้ ที่เว็บไซต์ http://www.chch.ox.ac.uk

การเดินทาง: จาก Paddington Station (London) ถึง Oxford Station ใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ

Christ Church College เมือง Oxford

[wp_ad_camp_1]

 

4. ยอร์ค (York City) เมืองเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ จากลอนดอน ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ ประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็จะได้สัมผัสกับความงามของเมืองเล็กๆน่ารักแห่งนี้ ยอร์คเป็นเมืองเก่าที่ถือว่ายังคงมีซากปรักหักพังหลงเหลืออยู่ให้คนรุ่นเราได้ชื่นชมความงดงามในอดีต อย่าง St. Mary’s Abbey ทุกวันนี้เปรียบได้กับห้องนั่งเล่นของชาวเมืองที่มาพักผ่อนหย่อนใจในสวนสวย และ สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงยอร์ค ก็คือ วิหารเมืองยอร์ค หรือ York Minster โบสถ์สไตล์โกธิคที่ว่ากันว่าใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรปเลยทีเดียว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้ก็คือ กำแพงที่รายล้อมเมืองเอาไว้ เราสามารถขึ้นไปเดินเล่นบนกำแพงเมืองได้ด้วย เดินเหนื่อยแล้ว ก็อย่าลืมไปนั่งจิบ afternoon Tea สวยๆสไตล์อังกฤษ ที่ Betty’s café Tea Rooms ร้านชาสไตล์อังกฤษชื่อดังของเมือง สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ ที่ https://www.bettys.co.uk/cafe-tea-rooms/afternoon-tea-at-bettys# อิ่มท้องแล้วก็ไปเดินย่อยกันที่ Little Shambles ซึ่งถนนสายนี้เขาว่าเป็นแรงบันดาลใจตรอกไดแอกอนในเรื่อง Harry Potter อีกด้วย

ค่าเข้าชม York Minster: 15 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และ 5 ปอนด์ สำหรับเด็ก รายละเอียดเพิ่มเติม https://yorkminster.org/visit-york-minster/opening-times-amp-admission.html
การเดินทาง: จาก King’s Cross Station (London) ถึง ยอร์ค ใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยรถไฟ หลังจากเที่ยวยอร์คแล้ว สามารถเที่ยวเมืองอื่นใกล้กันอย่าง Leeds, Manchester, Liverpool ก็ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากค่ะ

The Shambles เมือง York

 

5. Cotswolds (คอทส์โวลด์) ที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำทำความรู้จักกันวันนี้ จะเรียกว่าเป็นเมืองก็ไม่ถูกเสียทีเดียว Cotswolds เป็นเขตพื้นที่หนึ่งทางตะวันตกของอังกฤษ ที่มีเมืองท่องเที่ยวอย่าง Oxford, Bath และ Stanford-upon-Avon รายล้อม ลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาและทุ่งหญ้าประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กใหญ่มากมาย สิ่งที่ทำให้ Cotswolds มีชื่อเสียงก็คือสถาปัตยกรรมแบบหมู่บ้านอังกฤษโบราณและทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงามที่ทำให้นึกถึงบ้านกระท่องในนิทานสมัยเด็ก หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Cotswolds มีชื่อว่า Bibury ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษ เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้มีถนนที่ขนานไปกับแม่น้ำสายเล็กๆ เรียงรายด้วยกระท่อมหินสีน้ำผึ้ง (Cotswold stone) ซึ่งมีให้เห็นเฉพาะในเขตนี้เท่านั้น กระท่อมหินสีน้ำผึ้ง หรือ Arlington Row เป็นกระท่อมเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1380 เป็นเขตที่ชาวบ้านทำการทอผ้าขนสัตว์ในอดีต และเป็นที่อาศัยของคนในหมู่บ้านปัจจุบัน กระท่อมแต่ละหลังได้รับการดูแล และรักษาสภาพเดิมไว้เป็นอย่างดี จึงทำให้พื้นที่แถบนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปมากที่สุด จุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใน Bibury ก็คือ Bibury Trout Farm เป็นฟาร์มปลาเทราท์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในอังกฤษ นอกจาก Bibury แล้วยังมีหมู่บ้านอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ ไว้มีโอกาสจะมาแนะนำเพิ่มเติมสำหรับหมู่บ้านที่เหลือค่ะ

การเดินทาง: หากต้องการเที่ยว Cotswolds ให้ครบถ้วน แนะนำให้เช่ารถขับลัดเลาะไปตามหมู่บ้านต่างๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจากลอนดอน หรือ โดยรถไฟ สามารถขึ้นรถได้ที Paddington Station ไปยัง Moreton-In-Marsh ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งใน Cotswolds และเป็นจุดต่อรถบัส(ด้านหน้าสถานี)ไปยังเมืองอื่นๆ หรือจะซื้อทัวร์จาก ลอนดอน หรือ บาธ ก็มีให้เลือกหลายที่ค่ะ

บรรยากาศที่ Arlington Row Bibury

 

ในอังกฤษยังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่น่าสนใจที่สามารถเดินทางไป-กลับจากลอนดอนได้ภายในหนึ่งวัน หรือ จะแพลนเป็นทริปสั้นๆค้างคืนเพื่อซึมซับบรรยากาศของแต่ละเมืองก็ได้ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองได้ไปสัมผัสเมืองรอบนอกลอนดอน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยค่ะ


Exit mobile version