วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple
ที่วัดนี้จะมีการเปิดไฟส่องสว่างเพื่อความสวยงามในตอนกลางคืนถ้าใครมาเดินเล่นย่านไชน่าทางน์แล้วอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันได้ และถ้าใครใส่กางเกงขาสั้นมาที่นี่จะมีบริการผ้าถุงให้ยืมฟรีด้วย รวมทั้งแนะนำให้ขึ้นลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าก่อนเลยแล้วค่อยๆเดินเที่ยวลงมา 
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว(Buddha Tooth Relic Temple)หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดเขี้ยวแก้ว เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดทางศาสนาพุทธที่สำคัญวัดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ อยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์(Chinatown) ที่นอกจากจะมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆภายในวัดนี้อีกมาก
วัดพระเขี้ยวแก้วนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2007 ด้วยงบประมาณการสร้างถึง 62 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือ 2,000 กว่าล้านบาท! โดยมีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวัดพุทธของจีนในสมัยราชวงศ์ถัง โดยวัดนี้จะมีอาคารหลักขนาดใหญ่อยู่อาคารเดียว โดยตัวอาคารจะแบ่งออกได้เป็นชั้นใต้ดิน 3 ชั้น บนดินอีก 4 ชั้น ไม่รวมชั้นลอยและดาดฟ้า ถ้านับจริงๆก็จะมีทั้งหมด 9 ชั้นเลยทีเดียว แต่ส่วนที่เปิดให้เข้าชมได้จะอยู่บนดินเท่านั้น ตัวอาคารได้รับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอย่างงดงาม ตระการตา โดยแต่ละชั้นจะมีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันดังนี้
บริเวณห้องโถงชั้น 1 ของวัดพระเขี้ยวแก้ว
พระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมที่โซนด้านหลังของชั้น 1
ชั้นที่ 1 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือด้านหน้าและด้านหลัง โดยโซนด้านหน้าจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สำหรับสวนมนต์ และเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน ส่วนอีกโซนที่อยู่ด้านหลังจะมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ ผนังด้านข้างที่ชั้น 1 ของวัดพระเขี้ยวแก้วทั้ง 2 ด้านจะมีพระพุทธรูปขนาดเล็กนับร้อนวาโดยหลักๆแล้วชั้นที่ 1 จะเอาไว้สักการะบูชา พระพุทธรูป
ชั้นลอย เป็นส่วนเดียวกับโถงด้านหน้าที่เป็นพิพิธภัณท์ด้วย
ชั้นที่ 2 เป็นส่วนของพิพิธภัณท์ ห้องสมุด และร้านขายของฝากและของที่ระลึก
ชั้นที่ 3 เป็นส่วนของพิพิธภัณท์ จะมีวัตถุโบราณทางด้านศาสนาต่างๆจัดแสดงอยู่
ชั้นที่ 4 เป็นไฮไลท์ของวัดพระเขี้ยวแก้วเพราะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ หรือ ฟัน ของพระพุทธเจ้าอยู่นั่นเอง ชั้นนี้จะห้ามถ่ายรูป
ภายในเจดีย์หมื่นองค์และระฆังหมุนยักษ์ที่ชั้นดาดฟ้า
ชั้นดาดฟ้า เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดพระเขี้ยวแก้ว โดยด้านบนจะมีเจดีย์อยู่(แต่ดูลักษณะแล้วเหมือนกับศาลามากกว่า)ภายในจะมีระฆังสำหรับหมุนขนาดยักษ์ตั้งอยู่ โดยมาจากวัดพุทธธิเบตที่เชื่อกันว่าถ้าอธิบายแล้วเดินหมุนรอบระฆังครบ 3 รอบจะช่วยให้เป็นจริง รวมทั้งผนังรอบๆเจดีย์นี้จะมีพระพุทธรูปเรียงรายกันอยู่เยอะมากจนเรียก เจดีย์นี้กันว่า เจดีย์หมื่นองค์(Ten Thousand Buddhas Pagoda) แล้วก็จะมีสวนกล้วยไม้เล็กๆให้ชมกันด้วย
โดนรวมแล้วการมาเที่ยววัดพระเขี้ยวแก้วอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าชั่วโมงทีเดียว ที่ชั้น 2, 3 และ 4 จะเป็นห้องแอร์ อาจจะเอาไว้หลบร้อนหลังจากเดินเล่นย่านไชน่าทาวน์มาแล้วก็ได้
* การเข้าชมวัดพระเขี้ยวแก้วจะต้องแต่งการให้เรียบร้อยห้ามใส่กางเกงขาสั้นรวมทั้ง เสื้อกล้ามหรือเสื้อแขนกุด แต่ที่วัดนี้จะมีบริการให้ยืมผ้าถุงด้วย ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่าย
ฟรีเวลาทำการ
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7:00-19:00วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางมาที่วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว(Buddha Tooth Relic Temple)นั้นง่ายมากๆ เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Chinatown Station ประมาณ 500 เมตร ซึ่งจะมีอยู่ 2 สายที่ผ่านคือ Downtown Line สีน้ำเงิน และ North East Line สีม่วง ให้ออกที่ทางออก A จะโผล่ออกมาที่ใจกลางของย่านตลาดคนเดิน ถนน Pagoda Street ก็ให้เดินตรงยาวออกไปประมาณ 250 เมตรจะไปชนกับถนน South Bridge Road ซึ่งจะเห็นวัดแขกที่ชื่อว่า ศรีมาริอัมมันต์(Sri Mariamman Temple) ทางขวามือ ก็ให้เลี้ยวขวา แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆอีกประมาณ 250 เมตร ก็จะเห็นวัดเขี้ยวแก้วนี้ตั้งสง่าอยู่ทางขวามือเลยแผนที่วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple และสถานที่อื่นๆใน ย่านไชน่าทาวน์(Chinatown)
- สถานที่ปัจจุบัน
- สถานที่แนะนำ
- สถานที่อื่นๆ
http://www.flickr.com/photos/34371745@N05/
https://chinatowntrail2015.wordpress.com/2015/05/05/buddha-tooth-relic-temple/
http://www.yoninja.com/asia/listing/singapore/activities/2354/buddha-tooth-relic-temple-and-museum-singapore
https://applesandazaleas.com/2013/04/18/singapore-days-pt-3/
- ที่เที่ยวแนะนำ
- จุดชมซากุระ
- จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี
- เป็นมรกดโลก
